เช้านี้ที่หมอชิต - แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งยกระดับดูแลความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังคนร้ายก่อเหตุวางระเบิด ครูใหญ่โรงเรียน ตชด. เสียชีวิตพร้อมลูกชาย ซึ่งวานนี้ก็มีพิธีตามหลักศาสนาอิสลาม ฝังร่างของทั้งคู่ไว้เคียงกัน ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติ และผู้ไปร่วมในพิธีฝังศพ
ครอบครัวนำร่าง พันตำรวจโท สุวิทย์ และ ดาบตำรวจ โดม จากบ้านในตำบลคลองทรายขาว อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ไปมัสยิดเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม และฝังในกุโบร์ โดยมีการขุดหลุม 2 หลุม ไว้ติดกัน ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติและเพื่อนร่วมงานที่มาร่วมไว้อาลัยในพิธีฝังศพ
โดย ดาบตำรวจ ดัช ลูกชายคนเล็กของพันตำรวจโท สุวิทย์ เล่าว่า เดิมทำหน้าที่ในพื้นที่เดียวกับพ่อและพี่ชาย จน 2 ปีก่อน ขอย้ายกลับมาบ้าน ส่วนพ่อก็เตรียมตัวลาออกแล้ว แต่ด้วยความรักในอาชีพนี้ จึงยังไม่ลาออก และในครอบครัวก็เตรียมใจกันมาตลอด เพราะทำงานพื้นที่เสี่ยง พร้อมยังตกลงกันไว้หากใครเสียชีวิตก่อน คนที่เหลือต้องทำหน้าที่ดูแลแม่
ส่วน ภรรยาของพันตำรวจโท สุวิทย์ บอกว่าเคยขอให้สามีย้ายกลับบ้าน แต่สามีก็รักอาชีพครู ตชด. จึงยังขอทำหน้าที่ต่อไป
ไม่เพียงคนในพิธีฝังศพที่อาลัยเศร้าเสียใจ คนในโซเชียลก็ร่วมกันสดุดีทั้ง 2 ท่าน ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นบุคคลที่เสียสละเพื่อผลประโยชน์ต่อส่วนรวมจริง ๆ
ทีนี้มาดูในแง่คดีความ เบื้องต้นมีแหล่งข่าวความมั่นคง เปิดเผยกับทีมข่าว 7HD ภาคใต้ ว่า กลุ่มที่ก่อเหตุครั้งนี้ เป็นกลุ่มใหญ่ที่ซ่องสุมกำลังบนเทือกเขาเมาะแต จังหวัดนราธิวาส และก่อเหตุวางระเบิดแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอศรีสาคร ที่มีการก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2564 เว้นเงียบไปจนปีที่แล้ว ก็กลับมาก่อเหตุอีก โดยมีเป้าหมายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และขณะนี้ก็พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ ระดับแกนนำและสั่งการกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มอยู่ในพื้นที่ยะลา
ด้านแม่ทัพภาคที่ 4 เผยว่า ขณะนี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า มีแผนพิทักษ์กำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยใช้กำลังรักษาความปลอดภัยบุคคล ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และระหว่างลาพัก โดยแผนรักษาความปลอดภัย แบ่งเป็น 3 มาตรการ คือ การรักษาความปลอดภัยโดยตัวเอง, การรักษาความปลอดภัยโดยชุมชน และการดูแลโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ให้เข้มงวดมากขึ้น
ขอบคุณภาพจาก : TikTok @khunchang_