ลูกเตือนแต่ไม่ฟัง! ลุงวัยเกษียณ อยากไปทำงานเมืองนอก เจอมิจฉาชีพหลอก สูญ 3 แสน

ลูกเตือนแต่ไม่ฟัง! ลุงวัยเกษียณ อยากไปทำงานเมืองนอก เจอมิจฉาชีพหลอก สูญ 3 แสน

View icon 1.6K
วันที่ 20 ม.ค. 2568 | 19.59 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ลูกสาวห้ามแล้วก็ไม่ฟัง! ลุงวัยเกษียณ อยากไปทำงานเมืองนอก หวังเก็บเงินสัก 2-3 ปี โดนมิจฉาชีพหลอกสูญ 3 แสนในพริบตา แถมเจอเย้ย “มึงโง่เอง”

20 ม.ค. 68 ผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าว จ.กาฬสินธุ์ หลังอยากไปทำงานเมืองนอก เขาบอกว่าสบายรายได้ดี มิจฉาชีพอ้างเป็นชาวสวนเกษตรค่าแรงชั่วโมงละ 662 บาท ทำงาน 8-9 ชั่วโมงขั้นต่ำ ต่อวันรายได้ 90,000 - 150,000บาท ต่อเดือน (ไม่หักtax) สูญเงิน 3 แสนในพริบตา

โดยนายก้อง (นามสมมุติ) อายุ 61 ปี เผยว่า เนื่องจากตอนนี้ตนเองว่างงาน เพราะอายุเกิน 60 ปีแล้ว เลยคิดอยากจะไปทำงานต่างประเทศ โดยไปเห็นเพจหนึ่งที่บอกว่าเป็นฝ่ายบริการจัดหางานของบริษัทแห่งหนึ่ง มีทุนจดทะเบียน 51 ล้านบาท ได้เปิดรับสมัครคนไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย อายุระหว่าง 50 ปี ไม่เกิน 65 ปี พอดีตนเองก็อยู่ในเกณฑ์นั้นพอดี ก็เลยคิดว่าอยากไปทำงานที่ออสเตรเลียสัก 2-3 ปี พอมีเงินเก็บกลับมา แต่ปัญหามันมีอยู่ว่าเราเองไม่ได้รู้ว่าบริษัทนี้มีจริงหรือป่าวที่ได้พูดคุยมา พอได้รู้จัก เขาก็ได้เชิญเข้าไลน์กลุ่มแรงงาน 98/19 น่าจะมีสมาชิกในกลุ่ม 19 คน ที่แจ้งตัวเองว่าเป็นแรงงานที่ไปทำงานที่ออสเตรเลีย

นายก้อง กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา ตนเองได้เดินทางไป จ.ขอนแก่น ก็เลยมีคนทักมาว่ายังสนใจไปทำงานต่างประเทศหรือไม่ มีโควตาอยู่ ถ้าอยากได้โควตาต้องจอง 6,500 บาท ก็เลยตัดสินใจโอนเงินไปจองโควตา หลังจากนั้นก็ติดต่อกันมาเรื่อย ๆ ในเรื่องของของการทำเอกสาร โดยได้ส่งพาสปอร์ต บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน แล้วทางบริษัทจะทำเรื่องตรวจสอบประวัติอาชญากรรมว่า เรามีประวัติเสียหรือไม่ เขาก็ทำให้ทั้งหมด

ต่อมาวันที่ 28 ธ.ค. 67 เขาก็ให้ไปตรวจโรค ตนเองก็ได้ไปตรวจโรค ก็ได้ส่งใบตรวจโรคไปให้ เขาก็แจ้งว่าการยื่นวีซ่าไปสถานทูตผ่านหมดเรียบร้อยแล้ว โดยให้ยื่นสเตทเม้นท์ย้อนหลัง 6 เดือนไปด้วย เขาบอกว่ายื่นสเตทเม้นท์ไปแล้วแต่ไม่ผ่าน โดยมีหนังสือมาว่าถ้าสเตทเม้นท์ไม่ผ่าน นายจ้างก็จะอนุโลมให้ โดยต้องหาเงินจำนวน 3 แสนบาท เพื่อเป็นหลักประกันในการไปทำงานต่างประเทศ

หลังจากนั้นจึงได้ไปกู้ยืมเงินมาได้ 2 แสนบาท เงินตัวเองกับภรรยาอีกคนละ 5 หมื่นบาท รวมแล้วมีเงินในบัญชีอยู่ 314,703.46 บาท ตามในบันทึกประจำวันของตำรวจ หลังจากนั้นเขาก็บอกว่าเงินไม่สามารถโอนได้ ต้องไปดาวน์โหลแอปฯ มาเพื่อเปลี่ยนสกุลเงินให้เป็นดอลลาร์ แล้วต้องไปสแกนหน้าที่ธนาคารเพราะมียอดการโอนเงินเกิน 5 หมื่นบาท ต้องมีการสแกนหน้าเพื่อรับรอง ด้วยความดีใจที่จะได้ไปทำงานเมืองนอกตนก็เลยไปไม่คิดเลยว่าจะโดนหลอก

พอออกมาจากธนาคารเขาก็ให้เราเข้าไปที่แอปฯ ที่ดาวน์โหลดมา แล้วโอนเงินเข้าไปในแอปฯ นั้น เงิน 3 แสนกว่าบาทไม่ถึงวินาทีไปหมดเลย ตอนนี้เหมือนจะเป็นลม เหมือนขาดใจตายไปเลย เงิน 3 แสนบาทหายไปในพริบตา แล้วเขาบอกว่าเงินจะโอนตีกลับมา หากทำรายการไม่ถูกต้อง เชื่อว่าเป็นกลอุบายของเขา แล้วเขาก็บอกว่าให้โอนเงินไปอีกในยอดเท่าเดิม เสร็จเรียบร้อยมันถึงจะตีเงินทั้งหมดมาเป็นจำนวน 16,000 ดอลลาร์ กว่า ๆ เขาก็บอกย้ำ ๆ มา 2-3 วัน ก็เลยเกิดเอะใจ จึงได้แจ้งศูนย์ AOC สายด่วน 1441 เพื่ออายัดบัญชี และได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์

นายก้อง กล่าวอีกว่า ทางลูกสาวที่เป็นพนักงานธนาคารบอกว่า บริษัทนี้มันไม่มีจริงนะพ่อ เราก็ไม่เชื่อ เราเลยโดน จึงขอแจ้งเตือนคนที่คิดจะไปทำงานต่างประเทศ ประเทศที่เจริญแล้ว ให้คิดให้ดีคิดให้ถี่ถ้วน คิดให้รอบคอบ เพราะอยู่ในเพจมีคนโดนแบบนี้เยอะ ที่แน่ ๆ ก็ต้องไปถามกรมแรงงาน จัดหางานจังหวัด หรือหน่วยงานของรัฐจะดีที่สุด

ทั้งนี้ ตนยังโดนสมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มไลน์ คาดว่าเป็นมิจฉาชีพในขบวนการ บอกว่า “มึงโง่เอง” มาเยาะเย้ยอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ไลน์กลุ่มดังกล่าวคาดเป็นไลน์กลุ่มที่มีตัวละครของบรรดามิจฉาชีพอยู่ในกลุ่ม และจะดึงเหยื่อที่มีความสนใจตามเงื่อนไขที่ได้เสนอไปว่าจะพาไปทำงานต่างประเทศได้จริงเข้ากลุ่ม เพื่อให้ตัวละครแต่ละคนได้ร่วมกันออกกลอุบายให้เหยื่อหลงเชื่อจนโอนเงินให้ได้สำเร็จแล้วก็จะปิดกลุ่ม เพื่อออกไปสร้างกลุ่มใหม่หลอกเหยื่อรายต่อไปเรื่อย ๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง