เวลา 09.42 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2566 โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิเข้ารับพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ 2 คน และมีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร รวม 2,426 คน
โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาทความว่า "ปัจจุบัน กล่าวกันว่า เป็นยุคที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและสิ่งต่าง ๆ เรื่องราวเหตุการณ์ต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลง พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การที่จะดำเนินชีวิต และประกอบอาชีพการงาน ในสถานการณ์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดีนั้น บุคคลจะต้องรู้จักปรับตัวโดยเริ่มจากการทำความคิด ความเห็นของตนให้ถูกต้องก่อน กล่าวคือ ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ผันผวน หรืออุปสรรคปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นก็ตาม แต่ละคนพึงเห็นว่าเป็นโอกาส ที่จะได้เรียนรู้ และพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้าขึ้นอยู่เสมอ หากบุคคลเชื่อมั่นในศักยภาพของตน และเชื่อว่าความฉลาดความสามารถในด้านต่าง ๆ เป็นสิ่งที่พัฒนาให้ดีขึ้นได้ ด้วยความพากเพียร ฝึกฝนอย่างมั่นตั้งใจ โดยใช้วิธีการที่ดี ที่ถูกต้องแล้ว แต่ละคนก็จะมีกำลังกาย กำลังใจ กำลังปัญญา กล้าแข็งขึ้น และสามารถคิดเห็นแนวทางที่จะประพฤติตน ปฏิบัติงาน ให้บรรลุถึงความสำเร็จและความเจริญได้โดยไม่หวั่นไหว ย่อท้อ จึงขอให้บัณฑิตทุกคน นำสิ่งที่พูดนี้ไปพิจารณา และยึดถือปฏิบัติ เพื่อความสุขความสำเร็จในชีวิต และกิจการงานต่อไปในภายหน้า"
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปห้องจัดแสดงนิทรรศการ "ทรัพยากรท้องถิ่นสู่การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน" มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มุ่งส่งเสริมการพัฒนาด้านการวิจัย และส่งเสริมชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของทรัพยากรท้องถิ่นของตนเอง น้อมนำแนวทางโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ อพ.สธ. มาพัฒนาและส่งเสริมให้หน่วยงานสนองพระราชดำริฯ ประกอบด้วย รายงานผลการดำเนินงานของศูนย์ประสานงาน อพ.สธ.- มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี สนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมของสมาชิกสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน และฐานทรัพยากรท้องถิ่น 2 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนห้วยขะยูงวิทยา อำเภอวารินชำราบ และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร
นิทรรศการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรง ส่งเสริมอาชีพแก่ชุมชนบ้านหญ้าคา-บ้านพลาญชัย เพื่อสร้างรายได้ และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น น้ำผึ้งชันโรง และสบู่น้ำผึ้ง รวมถึงวิจัยค้นพบทรัพยากรพืชและสัตว์ใหม่ของโลก เช่น "แย้" ที่ชาวบ้านเรียกว่า "ยาบ" หรือ "ย้าบ" พบได้ในหลายพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานี ที่ราบสูงโคราช และเทือกเขาภูพาน, นิทรรศการแสงแรกประวัติศาสตร์ เนื่องจากมีพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขง ถือได้ว่าเป็นพระอาทิตย์แสงแรกที่สาดส่องที่จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดแรก, นิทรรศการ "ขี้อ้นกิ่งดำ" พืชชนิดใหม่ค้นพบที่อำเภอโขงเจียม
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการแสดงดนตรีไทย ของชมรมดนตรีไทย บรรเลงเพลง "เจ้าฟ้าหญิงมิ่งขวัญชาวอุบล" ซึ่งมหาวิทยาลัยฯ ประพันธ์ขึ้น มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
เวลา 14.31 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" จังหวัดยโสธร ที่ตำบลลุกพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว ซึ่งคณะสงฆ์ ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมจัดสร้างขึ้นตามโครงการห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" ตามแนวพระราชดำริฯ ซึ่ง กระทรวงศึกษาธิการ ได้รับมติจากคณะรัฐมนตรี ให้จัดทำโครงการฯ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 36 พรรษา ในปี 2534
โอกาสนี้ พระราชทานของที่ระลึกแก่ผู้มีอุปการคุณในการจัดสร้างห้องสมุดฯ ซึ่งเป็นห้องสมุดลำดับที่ 111 ของโครงการฯ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาและเป็นประโยชน์แก่ประชาชน เริ่มก่อสร้างในปี 2560 และเปิดให้บริการในปี 2566
โดยชั้นล่าง มีการจัดสัดส่วนมุมต่าง ๆ อาทิ มุมสืบค้นข้อมูล เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาใช้บริการ นำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการ โดยสามารถสืบค้นข้อมูลได้ด้วยตนเอง, มุมบริการหนังสือ เป็นพื้นที่สำหรับการอ่าน มีหนังสือทุกประเภท แบ่งตามหมวดหมู่ เช่น หนังสือพระราชนิพนธ์, หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน นวนิยาย และนิตยสาร, มุมเด็กและครอบครัว มีหนังสือสำหรับเด็ก, ของเล่นเสริมพัฒนาการ บอร์ดเกม เพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน, มุม IT ROOM ให้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์, บริการ E-Book และ WiFi ให้ผู้ใช้บริการศึกษาค้นคว้าได้ด้วยตัวเอง
ชั้นบน แบ่งเป็น 4 ห้อง ได้แก่ ห้องฮุ่งเฮืองเมืองยศ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับจังหวัดยโสธร ประเพณีวัฒนธรรม โบราณสถาน ชีวประวัติบุคคลสำคัญ ผลิตภัณฑ์ชุมชน และลายผ้าพื้นเมือง 9 อำเภอ ที่แฝงไปด้วยเรื่องราวของภูมิปัญญาท้องถิ่นและประวัติศาสตร์, ห้องประเพณีวัฒนธรรม จัดแสดงประวัติความเป็นมาของประเพณีบุญบั้งไฟ แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม อัตชีวประวัติของพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของจังหวัด,ห้องมัลติมีเดีย ฉายภาพยนตร์แอนิเมชัน สารคดี ประวัติความเป็นมาประเพณีวัฒนธรรมของจังหวัด อาทิ ตำนานการเกิดพญาแถน, ตำนานกำเนิดนาค และสารคดีย้อนอดีตเมืองยโสธร และห้องทรงงาน จัดแสดงผลงานฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
บริเวณด้านนอก จัดเป็นสวนหย่อมร่มรื่นสวยงาม มีแหล่งเรียนรู้สวนเกษตรพอเพียง ปลูกผักสวนครัว ให้ศึกษาเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง โดยเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. เว้นวันหยุดราชการ