เสียงแตก! สว.เสนอไลฟ์ประหารนักโทษยาเสพติด

View icon 221
วันที่ 29 ม.ค. 2568 | 16.37 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - กลายเป็นประเด็นที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจาก สว.ท่านหนึ่ง เสนอแนวคิดใช้ยาแรง ประหารชีวิตนักโทษคดียาเสพติด ภายใน 3 เดือน และถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์ด้วย รับประกันไม่มีใครกล้าทำผิดแน่

เสียงแตก! สว.เสนอไลฟ์ประหารนักโทษยาเสพติด
การประชุมวุฒิสภา เมื่อวานนี้ มีการพิจารณารายงานผลปฏิบัติงานของ ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด แต่ประเด็นที่ฮือฮา คือ นายอะมัด อายุเคน สว. อภิปราย เสนอให้แก้กฎหมายของประเทศไทยที่ยังอ่อนแอ อย่างสิงคโปร์ที่มีกฎหมายประหารชีวิตคดียาเสพติด ถ้ามีอำนาจจะเสนอว่า ประเทศไทยควรมีโทษประหารชีวิตเหมือนกัน ขอให้ประหารภายใน 3 เดือน และถ่ายทอดโทรทัศน์ด้วย รับประกันได้ว่า ไม่มีใครกล้าทำผิดแน่นอน พร้อมย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชุด แต่งตั้งชุดใหม่ ลองดูว่าทำได้หรือไม่

ระหว่างที่นายอะมัดอภิปรายอยู่นั้น มี สว. หลายคนมายืนอยู่ด้านหลังเหมือนกับเป็นกองเชียร์ ทำให้นายอะมัด กล่าวขึ้นว่า "ท่านว่าทำได้ไหม กองเชียร์ผมบอกว่าทำได้หมด" พร้อมกล่าวอีกว่า ข้อเสนอตนอาจรุนแรงไปหน่อย มันไม่ใช่ความรุนแรงแต่เป็นความเด็ดขาด

หลังจากข้อเสนอประหารนักโทษคดียาเสพติดด้วยการถ่ายทอดสด แพร่ออกไป ทำให้เสียงแตกออกเป็น 2 ฝั่ง มีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย อย่างคนที่เห็นด้วยอาทิ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า "เห็นด้วยเลยค่ะ พ่วงคดีข่มขืนไปด้วยนะคะ" 

แต่ขณะที่ทนายชูชาติ กันภัย ไม่เห็นด้วย โพสต์ข้อความระบุว่า "เมืองไทยวันนี้ สว. เปลืองเงินภาษี ประกาศให้ถ่ายทอดสดการประหารชีวิตนักโทษ" เช่นเดียวกับ "โบว์" ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ นักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความว่า "ต้องบ้าและดักดานพอ #คนดีย์"

อังคณา ค้านประหารชีวิตนักโทษยาเสพติด
ขณะเดียวกันวันนี้ ที่รัฐสภา นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค มองว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ แต่คงต้องไปทบทวนเหตุการณ์ในอดีต ที่มีการฆ่าตัดตอนคนจำนวนมาก แต่สุดท้ายยาเสพติดก็ไม่หมดไป

ส่วนข้อเสนอที่ให้มีการถ่ายทอดสดช่วงการประหารชีวิตนั้น นางอังคณา กล่าวว่า ถือเป็นการลดทอนศักดิ์ศรีคุณค่าความเป็นมนุษย์ เป็นการผลิตซ้ำความรุนแรง และไม่ได้ทำให้เกิดความหลาบจำ ซึ่งความจริงแล้วขัดกับ พ.ร.บ.อุ้มหาย ในเรื่องของการกระทำใด ๆ ที่เป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่ง สว. ท่านนั้น ต้องไปศึกษากฎหมายเพิ่มเติม

หากจะแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบ ต้องปราบปรามผู้กระทำผิดรายใหญ่ และต้องดำเนินการอย่างจริงจัง แต่ไม่ใช่ใช้วิธีการที่รุนแรง เพราะในขณะที่รัฐบาลใช้กฎหมาย ก็ต้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนไปด้วย การประหารชีวิตไม่ได้ทำได้ง่าย ๆ ต้องมีคำพิพากษาจากศาล และมีพยานหลักฐาน การกระทำผิดต้องเป็นโทษรุนแรง แต่คิดว่า สว.ท่านนั้น พูดเหมือนปากพาไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง