อุกอาจ! สาวทำงานโรงพยาบาล ถูก 2 ชายฉกรรจ์ 1 หญิง ขับเก๋งปาดหน้าขณะไปทำงาน ก่อนอุ้มขึ้นรถ มัดมือ-ปิดตา ซ้อมจนแท้ง ก่อนขับมาทิ้งปากซอยห้องพัก
30 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.6 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พบกับ น.ส.กชภัสรรสณ์ อายุ 29 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ อยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้าอยู่ที่พื้นห้องห้องเช่า สวมใส่เสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีขาว ของพยาบาลแห่งหนึ่ง จ.พระนครศรีอยุธยา มีเลือดไหลออกมาจำนวนมากบริเวณช่องคลอด กางเกงพยาบาล เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ตั้งแต่บริเวณปากทางเข้าบ้านจนจนถึงประตูบ้านพบรอยเลือดหยดเป็นทางยาวจำนวนมาก ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นอยู่ในสภาพอิดโรยเหมือนคนใกล้จะหมดแรง
แต่ยังสามารถให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวได้ว่า เหตุเกิดช่วงเวลา ประมาณ 06.00น. ตนเองได้ขับรถเก๋งเพื่อจะไปทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยขับรถใช้เส้นทางโรจนะมุ่งหน้าวังน้อย กระทั่งไปถึงจุดเกิดเหตุก่อนถึงปั๊มน้ำมัน ได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 หญิง 1 ขับรถเก๋งฮอนด้า สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จากนั้น มีชายฉกรรจ์ 1 คนเดินลงจากรถและเดินมาด้านท้ายรถเพื่อขวางไม่ให้ตนเองถอยหลังเพื่อหลบหนี
จากนั้น มีผู้หญิงอีก 1 คนลงมาจากรถ แล้วเปิดประตูรถของตนเอง เข้ามาฝั่งข้างคนขับ ก่อนจะจับมือตนแล้วใช้เชือกมัด ผ้าปิดตา จากนั้นบังคับให้ตนเองลงจากรถและไปขึ้นรถเก๋งของผู้ก่อเหตุ โดยบังคับให้เข้าไปนั่งด้านหลังฝั่งคนขับ จากนั้นผู้หญิงได้ลงมือทำร้ายโดยการใช้เท้าถีบที่บริเวณหน้าท้องหลายครั้ง ก่อนจะขับรถพาตนเองไปส่งบริเวณหน้าปากซอยทางเข้าห้องเช่า โดยมีชายฉกรรจ์อีก 1 คน ขับรถของตนเองมาจอดทิ้งไว้ ตนจึงพยายามกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอด ขับรถที่ผู้ก่อเหตุนำมาทิ้งไว้ ขับต่อเข้าไปในห้องเช่า ซึ่งห่างจากบริเวณปากซอยประมาณ 1 กิโมตร จากนั้นตนเองก็พยายามพยุงร่างเข้าไปในห้องเช่า แต่ด้วยความเจ็บปวดจึงนอนล้มฟุบสลบอยู่บริเวณหน้าปากทางประตูห้องเช่า จนกระทั่งสามีของตนเองกลับมาเจอ
ส่วนมูลเหตุที่ตนเองถูกกระทำแบบนี้ ตนเองก็ยังไม่ทราบเกิดจากอะไร แต่เมื่อ 2 เดือน ที่แล้ว ตนเองเคยแจ้งความและมีคดีฟ้องร้องกับคู่กรณี จนเป็นเหตุให้คู่กรณีไม่ได้ประกันตัวและติตคุก ตนเองก็ไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุนี้หรือไม่
ด้านนายณฤเบศ อายุ 52 ปี สามี เล่าว่า เมื่อเช้านี้ ภรรยา ได้โทรมาหาว่าตอนนี้มีรถเก๋งต้องสงสัยขับมาปาดหน้า และลงมาเหมือนลักษณะจะทำร้าย ซึ่งตนเองได้ยินโทรศัพท์ในเสียงปลายสายอยู่กับภรรยา ลักษณะเอะอะโวยวาย จากนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ตัดไป ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่ง พยายามโทรติดต่อภรรยา แต่ไม่สามารถติดต่อได้
กระทั่ง ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ภรรยาโทรโทรศัพท์กลับมาแจ้งว่า ตนเองถูกทำร้ายจนมีเลือดไหลออกมาบริเวณที่ช่องคลอดจำนวนมาก และตอนนี้ก็อยู่ที่ห้อง หลังจากนั้นโทรศัพท์ก็ตัดสายไปอีก ตนเองจึงรีบกลับมาที่ห้องเช่าเห็นภรรยานอนสลบ อยู่บริเวณปากประตูห้องเช่า โดยสภาพเนื้อตัวมีแต่เลือด ตนจึงพยายามเขย่าตัวเพื่อเรียกให้ตื่น จนแภรรยา เริ่มรู้สึกตัว จึงพยายามสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ภรรยาจึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง ซึ่งตนเองทราบข่าวก็รู้สึกตกใจมาก
ส่วนผู้ก่อเหตุ ตนเองเชื่อว่าน่าจะเป็นคนรู้จัก เนื่องจากก่อนเกิดเหตุได้มีคนชื่ดพัด ทักแช็ตมาหาตนเอง ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ในลักษณะขู่ฆ่าภรรยาตน และมีการขับรถ มาดูลาดเลาไว้ก่อน 1 วัน ซึ่งตนเองก็พิมพ์ตอบไปในแช็ท โดยพูดหว่านล้อม ในลักษณะให้ล้มเลิกความคิดที่จะทำร้ายภรรยาตน โดยคนชื่อพัด ตอบกลับมาว่าล้มเลิกไม่ได้ โดยอ้างว่ามีการถูกว่าจ้างให้มาฆ่าในราคา 5 แสน บาท โดยอ้างว่ามีการรับเงินมาแล้วจำนวน 2.5 แสน หากทำสำเร็จจะได้รับเงินค่าจ้างส่วนที่เหลือ ไม่สามารถเลิกได้
จนกระทั่งช่วงเวลา 09.41น. คนชื่อพัด ทักแช็ตมาว่าได้ทำร้ายภรรยาตนแล้ว รวมทั้งขอโทษ บอกว่า เอาไปส่งทิ้งไว้ที่หน้าปากทางบ้านแล้ว ให้ตนกลับไปดูสภาพเมียของตนเอง
ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้เดินทางมาแจ้งความลงบันทึก ประจำวันที่ สภ.บางปะอิน สาขาสินทิวาธานี เอาไว้แล้ว
(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ที่แท้น้อยใจผัว! สาวกุเรื่องโดนอุ้มซ้อมจนแท้ง เลือดที่เห็นเป็นเลือดหมู ซ้ำไม่ได้เป็นพยาบาล)