เหยื่อแก๊งอุ้มบุญ เปิดใจถูกทำเหมือนไม่ใช่คน จ่ายค่าไถ่แลกกลับบ้าน

เหยื่อแก๊งอุ้มบุญ เปิดใจถูกทำเหมือนไม่ใช่คน จ่ายค่าไถ่แลกกลับบ้าน

View icon 1.1K
วันที่ 3 ก.พ. 2568 | 13.31 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ความยากจนบังคับ เปิดใจเหยื่อถูกหลอกมาอุ้มบุญ แต่ก็ไม่มีพ่อแม่ต่างชาติมาเซ็นสัญญาจ้าง ถูกบังคับรีดไข่ทุกเดือน กระทำเหมือนไม่ใช่คน จนสภาพร่างกายย่ำแย่ ยอมจ่ายค่าไถ่ 7 หมื่น จึงได้กลับบ้าน

ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี วันนี้ (3 ก.พ.68)  4 สาวไทยที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งอุ้มบุญจีนเทา ร้อง “ปวีณา” ช่วยเหลือจากจอร์เจียกลับไทย เปิดใจถึงความเป็นมาก่อนถูกหลอกไปทำงานอุ้มบุญในประเทศจอร์เจีย 

น.ส.นา (นามสมมุติ) ซึ่งยอมจ่ายเงินไถ่ตัว 70,000 บาท กลับมาก่อน เพื่อร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ ให้ไปช่วยเหลือเพื่อนคนไทยที่ไม่มีเงินจ่ายค่าไถ่ เล่าว่า ได้หางานในโซเชียล โดยค้นหาคำว่า "หางานทำในบ้าน หางานต่างประเทศ" จนได้พบเพจเฟซบุ๊กที่อ้างว่า "มีงานสำหรับผู้หญิง รายได้ 4-6 แสนบาท"  เมื่อติดต่อไป ทราบว่าเป็นงานอุ้มบุญที่ถูกกฎหมายในประเทศจอร์เจีย สามีภรรยาชาวต่างชาติที่มีลูกยาก จะมาเซ็นสัญญาให้อุ้มบุญ จะดูแลอย่างดีมีที่กินอยู่อย่างสบาย รายได้ 4-6 แสนบาท พร้อมกับจะออกค่าใช้จ่ายในการทำพาสปอร์ตและจ่ายค่าเดินทางให้ทั้งหมด ใช้เวลาในการเดินเรื่องประมาณ 1 เดือน

จากนั้น แอดมินให้ไปทำพาสปอร์ตและนัดเดินทางในวันที่ 30 ส.ค.67 โดยไปขึ้นเครื่องที่สนามบินอู่ตะเภา เมื่อถึงวันนัดพบว่ามีสาวไทยที่ร่วมเดินทางไปด้วยอีก 10 คน และมีผู้นำพาเป็นหญิงไทย 1 คน รวมทั้งหมด 12 คน ซึ่งแต่ละคนไม่รู้จักกัน จากนั้นผู้นำพาได้ให้เงินติดตัวคนละ 500 ดอลลาร์ เป็นเงินไทยประมาณ 15,000 บาท บอกว่าเอาไว้โชว์เวลาที่เจ้าหน้าที่ตรวจ เครื่องบินไปลงที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต ก่อนจะเปลี่ยนเครื่องไปลงที่ประเทศอาร์มีเนีย ผู้นำพาได้ให้ทุกคนนอนค้างที่โรงแรม 3 คืน และพาไปที่ต่าง ๆ เพื่อถ่ายรูป วันที่ 4 ได้เดินทางโดยรถไฟเข้าประเทศจอร์เจีย ใช้เวลากว่า 10 ชั่วโมง

เมื่อไปถึงจอร์เจียผู้นำพาได้ให้สาวไทยทั้งหมดเข้าพักในโรงแรม 1 คืน และยึดพาสปอร์ตทุกคน ก่อนจะพาไปที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งปลูกสร้างในเนื้อที่ขนาดใหญ่ ในบริเวณนั้นมีบ้านอยู่ 4 หลัง ตนถูกนำตัวไปที่บ้านหลังที่ 1 ซึ่งเป็นหลังที่ใหญ่ที่สุดพบสาวไทยอยู่รวมกันกว่า 60 คน บางคนสภาพร่างกายทรุดโทรม นั่งร้องไห้บอกว่าอยากกลับบ้าน วันต่อมาตนถูกย้ายมาอยู่บ้านหลังที่ 2 ที่มีสาวไทยอยู่กว่า 10 คน ตนสังเกตเห็นว่า บ้านทั้ง 4 หลัง มีคนไทยรวมประมาณ 100 คน และบริเวณดังกล่าวจะมีคนจีนเข้าออกตลอดเวลา เมื่อได้สอบถามกับผู้หญิงคนอื่น ๆ จนทราบว่า หญิงสาวเหล่านั้นถูกหลอกมาให้อุ้มบุญ แต่ก็ไม่มีพ่อแม่ต่างชาติคนไหนมาให้เซ็นสัญญาจ้าง ทุกคนจึงถูกบังคับให้ขายไข่ จะถูกรีดไข่ทุกเดือนเหมือนไม่ใช่คน สภาพร่างกายย่ำแย่ หากอยากกลับบ้าน จะถูกเรียกค่าไถ่ตัวอ้างว่า เป็นค่าเดินทางและค่ากินอยู่ 5-7 หมื่นบาท

เหยื่อหญิงสาวหลายคน ต้องทนอยู่เพราะไม่มีเงินไถ่ตัว และถูกข่มขู่ว่า หากกลับไทยก็จะถูกจับกุมดำเนินคดี ทุกคนจึงกลัวมากคนที่ถูกรีดไข่จะถูกฉีดยากระตุ้นการตกไข่ เพื่อให้ไข่ตกหลายใบ เมื่อไข่พร้อมปฏิสนธิก็จะถูกนำตัวมาวางยาสลบและใช้เครื่องมือดูดไข่ออกไป สภาพร่างกายก็ย่ำแย่ไปทุกที ตนไม่ยอมรีดไข่ จึงได้ติดต่อญาติเพื่อขอให้หาเงินส่งมาไถ่ตัว 7 หมื่นบาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีคนในขบวนการที่คาดว่าเป็นหัวหน้า จากนั้นจึงได้รับการปล่อยตัวและซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับไทยวันที่ 9 ก.ย.67

ก่อนที่ตนจะกลับประเทศไทยมีเพื่อนสาวไทย 3 คน ที่ถูกหลอกไปเหมือนกัน ไม่ยอมให้รีดไข่แต่ไม่มีเงินค่าไถ่ตัว จึงได้ขอร้องให้ตนหาทางช่วยให้ได้กลับบ้าน ตนจึงเข้าร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอให้ช่วยเหลือเพื่อนสาวไทยทั้ง 3 ราย

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานตำรวจสากลที่ไทยร่วมกับตำรวจสากลระหว่างประเทศ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 30 นายเข้าไปช่วยเหลือคนไทยทั้ง 3 คน ออกจากบ้านหลังดังกล่าวที่จอร์เจีย และมูลนิธิปวีณาฯ ได้ช่วยเหลือค่าเครื่องบินในการเดินทางกลับไทยอย่างปลอดภัยเมื่อวันที่ 30 ม.ค.67

ข่าวที่เกี่ยวข้อง