เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจไซเบอร์ บุกค้น 4 จุดที่เกี่ยวข้องกับเว็บฯ พนันออนไลน์ จับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน ในจำนวนนี้ตัวการสำคัญเป็นชาวไต้หวัน ทำหน้าที่ "รองบอสชาวจีน" ที่ดูแลเครือข่ายนี้ซึ่งมีเงินหมุนเวียนวันละ 1 ล้านบาท
บ้านพักหลังนี้ ในซอยลาดพร้าว 88 ถูกใช้เป็นออฟฟิศ ฐานปฏิบัติการของเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่มีชาวไต้หวัน 2 คน ระดับ "รองบอส" เป็นผู้ควบคุมสั่งการ แต่ก็สิ้นฤทธิ์เมื่อตำรวจไซเบอร์ บุกเข้าจับกุม พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 33 เครื่อง บัญชีธนาคารทั้งไทยและต่างประเทศอีกจำนวนหนึ่ง
รวมทั้ง แอดมินเพจฯ อีก 18 คน ที่เบื้องต้นทั้งหมดยืนยัน ถูกจ้างมาทำงานโอนเงินซื้อขายสินทรัพย์ พวกภาพดิจิทัล ก่อนที่นายจ้าง จะหลอกให้ไปเปิดบัญชีธนาคาร และแจกโทรศัพท์คนละเครื่อง เพื่อใช้ผูกบัญชีธนาคารเข้ากับโทรศัพท์ ไว้รอรับคำสั่งให้รับ และโอนเงินไปให้บุคคลต่าง ๆ โดยบัญชีที่เปิดนี้ก็ถูกนำไปเชื่อมโยงกับเว็บฯ พนันออนไลน์ แทนที่แอดมิน จะเป็นผู้ต้องหา ตำรวจก็เลยต้องกันตัวคนไทยกลุ่มนี้ไว้เป็นพยาน ตามปกติแอดมินเพจฯ จะต้องถูกตำรวจจับกุมไปดำเนินคดี เพราะถือว่าเป็นส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด แต่จากการสอบสวน
อย่างที่บอกไปเครือข่ายนี้ มีเงินหมุนเวียนวันละ 1 ล้านบาท และผลปฏิบัติการครั้งนี้ ก็ได้ผู้ต้องหาชาวไต้หวัน 3 คน คนไทยและเมียนมาอย่างละ 1 คน ก่อนพาตัวไปดำเนินคดีข้อหาร่วมกันจัดให้เล่นพนันออนไลน์ และความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน
ส่วนคดีที่ตำรวจ บก.ปอท. จับกุมนายธนาวุฒิ แก๊งคอลเซนเตอร์ สาย 2 ผู้ต้องหาที่เชื่อมโยงกับคดี "ชาล็อต" เพราะเป็น 1 ในทีมคนร้ายที่หลอกให้ตายใจ จนหลงเชื่อยอมโอนเงิน 4 ล้านบาทไปให้ ถูกนำตัวไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ ฝากขังแล้ว เจ้าตัวพูดสั้น ๆ "ขอโทษ" นอกนั้นไม่ตอบคำถามใด ๆ อีก ซึ่งศาลฯ ก็ไม่อนุญาตให้ประกันตัว
โดย ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ บอกว่า ตอนนี้ยืนยันว่า มีคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาชัดเจน 3 คดี คือ คดีของ "ชาล็อต" คดีของหลานชายและคุณย่า รวมทั้งคดีเปิดเพจฯ ปลอมฮั่วเซ่งเฮง หลอกเทรดทอง ซึ่งมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกัน เป็นความเสียหายรวม 9 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่าน ก็มีการจับกุมบัญชีม้า คนจ้างเปิดบัญชี และได้ออกหมายจับคนถือกระเป๋าเงิน ไปแล้ว