แม่สุดช็อก! 4 รุ่นพี่ต่างด้าวในโรงเรียน วัย 8-9 ขวบ บังคับนักเรียนรุ่นน้องวัย 7 ขวบ จับล็อกแขน-ขา แล้วให้อม อึ้งยิ่งกว่า "ครูบอกเด็กอยากลองเอง" อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
เมื่อเวลา 19.30 น. วานนี้ (11 ก.พ. 68) น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี แม่ของเด็กวัย 7 ขวบได้เดินทางมาแจ้งความกับทาง พ.ต.ท.เอกชัย ภาควัตร รองผู้กำกับ (สอบสวน) สภ. บ้านบึง ว่า ลูกที่เรียนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในเขต อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เรียนอยู่ชั้น ป.1 อายุ 7 ขวบ ถูกรุ่นพี่ในโรงเรียนเดียวกัน ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา 1 คน อายุ 9 ขวบ และชาวเมียนมา 3 คน อายุ 8 ขวบ ซึ่งเด็กชาวเมียนมาทั้ง 3 คน ช่วยกันจับล็อกแขนขาน้องอายุ 7 ขวบ แล้วใช้มือบีบปากน้องออก แล้วให้อมอวัยวะเพศของเด็กชาวกัมพูชา และเมื่อได้มีการสอบถามครู ทางครูแจ้งว่าเด็กหยอกล้อกันเล่นและครูอ้างว่าลูกของตนอยากลอง แต่ไม่เป็นตามความจริง หากโรงเรียนไม่แก้ไข ปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขชึ้นแบบนี้ไปเรื่อย เด็กจะมีความปลอดภัยได้อย่างไร
โดย น.ส.เอ เปิดเผยว่า ตนมารู้เรื่องจากลูกเพื่อนที่เรียนรุ่นเดียวกันว่า กลุ่มรุ่นพี่ดังกล่าว ได้กระทำการดังกล่าวภายในเวลาเดียวกันถึง 2 คน ซึ่งหลังเกิดเหตุลูกตนก็กลับมาบ้านปกติไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง จนกระทั่ง แม่เพื่อนของลูกชายได้มาสอบถามว่าลูกชายก็โดนกระทำเหมือนกันและได้เล่าให้ฟังหรือไม่ จากนั้น จึงได้มาสอบถาม ลูกจึงได้เล่าให้ฟัง
ต่อมาตนได้เดินทางไปสอบถามทางโรงเรียน ครูก็ได้บอกว่าเด็กอยากลองเองเป็นการหยอกล้อกัน ซึ่งตนก็ไม่เชื่อ เพราะทางลูกบอกว่าไม่ได้หยอกล้อและไม่ได้อยากลอง ซึ่งในโรงเรียนนี้มีเด็กนักเรียนจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมากเกินกว่านักเรียนไทยก็ว่าได้ และอีกอย่างทางโรงเรียนก็รับเด็กนักเรียนประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเรียนโดยอายุเยอะกว่า แต่เรียนด้วยกันก็มี อย่างเช่นอายุ 7-8 ขวบ มาเข้าอนุบาลก็มี ซึ่งอายุก็ไม่สามารถมาร่วมกันได้แล้ว
ก็เข้าใจว่าทางโรงเรียนหรือคุณครูอยากให้เด็กมีอนาคต แต่อยากให้คัดกรองให้มากกว่านี้ เพราะว่านิสัยของเด็กไม่เหมือนกันและอีกอย่างหนึ่งตนก็ไม่รู้ว่านิสัยของเด็กประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างไรและมีการเล่นแบบไหน ซึ่งอายุเยอะแต่เรียนชั้นเดียวกันก็มี อีกอย่างก็ไม่มีการติดต่อฝ่ายผู้ปกครองและฝ่ายผู้กระทำความผิดให้มาพบหรือเจรจาอะไรกัน ทางโรงเรียนก็เงียบ และเพื่อนก็ได้มีการไปโพสต์สอบถามในกลุ่มทนายความเพื่อปรึกษาฟรีว่า กรณีอย่างนี้สามารถดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุได้หรือไม่ เนื่องจากเป็นนักเรียน เป็นชาวกัมพูชาและเมียนมา ที่มาอาศัยและเข้ามาเรียนในโรงเรียน
ทางครูก็เรียกไปพูดคุย และบอกเพียงแต่ว่าจะติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม เพื่อสอดส่องดูแลพฤติกรรมเด็กนักเรียนในโรงเรียน ตนก็เชื่อว่าไม่สามารถควบคุมได้ เพราะพฤติกรรมของเด็กไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร และสามารถควบคุมได้แค่ไหน อีกอย่างการเลี้ยงลูกเป็นสิ่งสำคัญ ตนก็ไม่รู้ว่าผู้ปกครองมีการกระทำอะไรให้ลูกเห็นหรือทำให้ลูกรู้หรือไม่ ลูกจึงได้จดจำแล้วเอามาทำกับเพื่อนในโรงเรียนอย่างนี้ ตนก็อยากจะให้โรงเรียนพิจารณาในการรับเด็กที่เข้ามาเรียน อยากให้คัดกรองและตรวจสอบให้ดี เพราะนิสัยเด็กไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรและความคิดเขาเป็นแบบไหน และที่สำคัญเหตุนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับลูกตนคนเดียว ยังมีเพื่อนของลูกก็โดนเหมือนกันอีกด้วย