พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงประกอบพิธีสมโภชพระอารามครบ 100 ปี และทรงยกเศวตฉัตรขึ้นกางกั้นเหนือพระพุทธรัศมี พระประธานประจำพระอุโบสถ วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี
เวลา 17.38 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินพระที่นั่ง ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมีนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับเสด็จ ด้วยความปลื้มปิติ ในโอกาสที่ เสด็จพระราชดำเนินไปยังจังหวัดอุดรธานีอีกครั้ง หลังจากเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี เมื่อปี 2563 และทรงเยี่ยมราษฎรที่โรงพยาบาลอุดรธานี เมื่อปี 2565 โดยวันนี้ มีประชาชนจากเทศบาลนครอุดรธานี และพื้นที่ใกล้เคียง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับเสด็จ พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญ
เวลา 17.52 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินถึงวัดโพธิสมภรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
จากนั้น ทรงพระดำเนินเข้าพระอุโบสถ ในการนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศบูชาพระพุทธรัศมี พระประธานประจำพระอุโบสถ ทรงกราบ ทรงศีลประธานสงฆ์ถวายศีล จบ ทรงประกอบพิธีสมโภชพระอารามครบ 100 ปี และทรงยกเศวตฉัตรขึ้นกางกั้นเหนือพระพุทธรัศมี พระประธานประจำพระอุโบสถ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสำริด มีขนาดหน้าตักกว้าง 1.55 เมตร ความสูงจากพระเพลาถึงพระเศียร 2.30 เมตร มีอายุราว 600 ปีเศษ ที่พระเศียรบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิตย์) ได้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานประจำพระอุโบสถ เมื่อปี 2467
วัดโพธิสมภรณ์ สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมหาอำมาตย์ตรี พระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร (โพธิ เนติโพธิ) สมุหเทศาภิบาลมณฑลอุดร ร่วมกับชาวบ้านที่มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนาสร้างวัดเพิ่มในเขตเทศบาลเมืองอุดรธานี เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนากิจของพระสงฆ์ และพิธีบำเพ็ญกุศลต่าง ๆ เดิมชื่อว่า "วัดใหม่" ต่อมาในปี 2466 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานวิสุงคามสีมา และพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ประทานชื่อวัดว่า "วัดโพธิสมภรณ์"
ต่อมาปี 2507 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ยกฐานะเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ เป็นวัดสังกัดธรรมยุติกนิกายแห่งแรกของจังหวัดอุดรธานี ที่ผ่านมาได้จัดการศึกษาพระพุทธศาสนา โดยจัดตั้งศูนย์บาลีศึกษาอีสานธรรมยุตภาค 8, 9, 10 และ 11 พร้อมกับตั้งศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ และเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุดรธานี ปัจจุบันได้ดำเนินงานเผยแผ่และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง มาจนครบ 100 ปี นับตั้งแต่ปีที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา แสดงถึงความรุ่งเรืองและแรงศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนาของชาวจังหวัดอุดรธานี
โอกาสนี้ พระราชทานของที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาบำรุงพระอาราม 100 คน
จากนั้น พระราชสารโกศล (วงศ์ไทย สุภวังโส) เจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ เฝ้า ถวายพระนิรันตราย (จำลอง) เนื้อทองสำริด, พระชัยวัฒน์นิรันตราย เนื้อทองคำ และถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถวายพระนิรันตราย (จำลอง) เนื้อทองเหลืองปิดทอง และพระชัยวัฒน์นิรันตราย เนื้อทองคำ แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
ปัจจุบัน วัดโพธิสมภรณ์ มีพระสงฆ์ และสามเณร รวม 37 รูป ภายในวัด มีถาวรวัตถุและปูชนียวัตถุสำคัญต่าง ๆ เช่น พระอุโบสถ, หอระฆัง, พระบรมธาตุเจดีย์, พระพุทธรัศมี, พระพุทธรูปศิลาแลง, พระบรมสารีริกธาตุ, รอยพระบาทจำลองทำด้วยศิลาแลง และต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่รัฐบาลสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกามอบให้แก่รัฐบาลไทย นำมาปลูกไว้ทางทิศเหนือของพระอุโบสถ เมื่อปี 2494
โดยมีประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียงจำนวนมาก พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลือง และชุดผ้าพื้นเมืองไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ เพื่อชื่นชมพระบารมี และแสดงถึงความจงรักภักดี
เวลา 18.40 น. ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยัง ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร มีข้าราชการ นักเรียน บุคลากรทางการศึกษา ชาวไทยมุสลิม ชาวไทยเชื้อสายจีน และประชาชนจากหลากหลายอาชีพในพื้นที่เทศบาลนครอุดรธานี และพื้นที่ใกล้เคียง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ส่งเสด็จ พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญ