“ช้างป่า” นอนตาย พบรอยไหม้ใต้งวง-เพดานปาก คาดไฟฟ้าดูดทำให้หัวใจวายเฉียบพลัน เตรียมขยายผลหาคนทำผิด พร้อมร่วมกับทุกภาคส่วนป้องกันช้างป่าออกนอกป่า
วันนี้ (21 ก.พ. 68) นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เผยว่า เมื่อเวลา 11.17 น. วานนี้ (20 ก.พ. 68) นายเอกชัย แสนดี หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบ “ช้างป่า” ตายบริเวณบ้านธรรมรัตใน หมู่ 6 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา นอกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จึงสั่งการให้ชุดเคลื่อนที่เร็วฯ ชุดที่ 4 ชลบุรี ชุดเคลื่อนที่เร็วฯ ชุดที่ 13 และทหารพรานชุดปฏิบัติการเขาใหญ่ เข้าตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบซาก ช้างป่า เพศผู้ อายุประมาณ 20 ปี น้ำหนัก 6,060 กิโลกรัม สูง 3.10 เมตร มีงาข้างซ้ายข้างเดียว วัดความยาวตามความโค้งด้านนอก 110 เซนติเมตร ด้านใน 93 เซนติเมตร เส้นรอบวงฐานงา 38 เซนติเมตร
ทาง นายสิรวิชญ์ ทรัพย์เอนก นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ พร้อมทีมสัตวแพทย์จากส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา), ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 กระบกคู่ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน 1306 และอาสาสมัครในพื้นที่ ร่วมกันทำการชันสูตรซากที่หน่วยพิทักษ์ป่าเขาใหญ่ ต.พลวงทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี
โดยผลการชันสูตรพบรอยไหม้ที่ผิวหนังใต้งวง 2 ตำแหน่ง และที่เพดานปาก 1 ตำแหน่ง มีของเหลวคั่งในเยื่อหุ้มหัวใจและเลือดคั่งบริเวณผิวหัวใจ สันนิษฐานสาเหตุการตายเกิดจากไฟฟ้าดูดทำให้หัวใจวายเฉียบพลัน ภายในกระเพาะพบอาหารลักษณะเป็นเยื่อใยสีเหลืองปนเขียว กลิ่นคล้ายกากน้ำตาล คาดว่าเป็นอ้อยที่ช้างเพิ่งกินเข้าไป
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ส่งมอบงาให้กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ดูแลรักษาและดำเนินการฝังกลบซากตามหลักวิชาการที่บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าเขาใหญ่ ภายในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีก ทั้งนี้ในส่วนของผู้กระทำผิดทาง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.บ่อทองแล้ว และจะขยายผลหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป