ลูกชายทรพีทาสยานรก ก่อเหตุฆ่าแม่ หลังขอเงินไม่ได้ ไม่สำนึกยังโพสต์เฟสบุ๊กรูปศพแม่คู่ฝ่ามือเย้ยเป็นยมบาล ก่อนหลบหนี จ.ตรัง
1 มี.ค. 68 เมื่อเวลา 12.30 น. ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช รอง สว. (สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว ได้รับแจ้งเหตุพบศพหญิงเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพัก ในพื้นที่ หมู่ 3 บ้านเกาะแต้ว ต.เกาะเปียะ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง
โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องโถงกลางบ้าน บริเวณหน้าห้องน้ำ พบศพนางสุดารัตน์ อายุ 46 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดเสียชีวิต ใกล้กันพบแว่นตา ไม้คาดผม และรองเท้าตกอยู่ 1 คู่ ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พลิกศพ พบมีบาดแผลถูกกระแทกอย่างรุนแรง ทำให้กะโหลกศีรษะซ้ายแตกและยุบ ใต้ตาซ้ายมีบาดแผลแตก คาดอาจจะมาจากการถูกชกต่อยหรือถูกของแข็งกระแทก เบื้องต้นน่าจะเสียชีวิตมาแล้วเป็นระยะเวลาประมาณ 1 วัน
ส่วนผู้ก่อเหตุทราบคือ นายณัฐพล อายุ 28 ปี ลูกชายคนโตของผู้เสียชีวิต หลังก่อเหตุได้ขับรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีขาว-แดง ทะเบียน 1 กล 8512 ตรัง ซึ่งเป็นรถของผู้เสียชีวิตเป็นยานพาหนะในการหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุประสานทุกโรงพักใน จ.ตรังและข้างเคียงให้สกัดหากพบเห็น
จากการสอบถาม น.ส.สุธาทิพย์ อายุ 23 ปี ลูกสาวคนสุดท้อง เล่าว่า แม่มีลูกทั้งหมด 4 คน ผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายคนโต บ้านหลังนี้แม่อยู่กับพี่ที่ลงมือก่อเหตุ 2 คน ซึ่งพี่ชายเสพยาเสพติด ไม่ประกอบอาชีพ ส่วนแม่ทำอาชีพค้าขายผักผลไม้ตามตลาดนัด เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 ก.พ.) ได้โทรมาหาแม่ แต่ปรากฏว่าแม่ไม่รับสาย จึงได้โทรหาบรรดาเพื่อนที่ขายของกับแม่ ก็ไม่มีใครทราบหรือพบเห็นแม่ ช่วงเที่ยงวันนี้จึงได้รีบกลับมาหาแม่ที่บ้าน ประตูไม่ได้ล็อก เข้าไปถึงก็เห็นว่าแม่นอนเสียชีวิตอยู่แล้ว ก็รู้ได้ทันทีว่าพี่ชายเป็นคนลงมือฆ่าแม่ เพราะที่ผ่านมา พี่ชายหลอนยาเสพติด ทำร้ายแม่มาหลายครั้ง และประวัติที่ผ่านมา พี่ชายคลุ้มคลั่ง เคยจุดไฟเผาบ้าน ทำร้ายแม่ ทำร้ายย่า ทำร้ายพ่อ ทำร้ายตนด้วย จนเคยถูกจับกุมจำคุกในคดียาเสพติดและวางเพลิงเผาทรัพย์ ส่วนพี่ชายอดีตเป็นนักมวย แต่หยุดต่อยไปได้ประมาณ 2-3 ปิ ยืนยันว่าพี่ชายติดยาเสพติด
พี่ชายคนกลางก็ชวนแม่ไปหางานทำที่เกาะสมุย แต่แม่ไม่ไป แม่พูดว่า ไม่มีใครดูแลไอ้เคี่ยม ไม่มีใครเอาข้าวเอาน้ำให้มันกินแม่ต้องอยู่กับมัน
"อยากจะพูดถึงแม่เป็นครั้งสุดท้ายว่า ลูกคนนี้มีแม่คนเดียว หนูขอบคุณแม่ที่ส่งเสียให้หนูเรียนจบ วันนี้หนูเรียนจบแล้ว จบเมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา กำลังหางานทำ แล้วหนูจะดูแลแม่ แต่วันนี้ หนู่ไม่มีแล้ว ไม่มีใครให้หนูดูแล ก่อนหน้านี้หนู่มียายที่ช่วยส่งเสียหนูกับแม่ วันหนูเรียนจบแม่จากหนูไป"
ส่วนสาเหตุที่พี่ชายลงมือฆ่าแม่อาจจะมาจากที่ของเงินแม่ไปซื้อยาเสพติดแล้วแม่ไม่ให้ เพราะพี่ชายจะขอเงินแม่ทุกวัน ซึ่งแม่มีรายได้จากขายของวันละ 500-1,000 บาท ซึ่งก่อนเกิดเหตุน่าจะเป็นช่วงที่แม่เพิ่งกลับมาจากขายของ โดยแม่รักพี่ชายมากจะจัดหาข้าวน้ำไว้ให้กินทุกวัน ความรู้สึกตอนนี้ พี่ชายใช้สารเสพติดเยอะอาจจะทำลายสมองไปแล้ว ยาเสพติดตัวเดียวเลยที่ทำลายทุกอย่าง ทำลายคนรอบข้าง ทำลายครอบครัว ฆ่าได้แม้กระทั่งแม่บังเกิดเกล้าของตัวเองยอมรับว่าแค้นมาก เสียใจมาก
ทางด้าน นายสมใจ อายุ 70 ปี พ่อผู้เสียชีวิต กล่าวพร้อมน้ำตาว่า ปัจจุบันตนอาศัยอยู่ใน อ.วังวิเศษ หลานตนเคยมีประวัติเสพยาเสพติดมานานแล้ว หลายปีก่อนเคยก่อเหตุเผาบ้านที่มีย่าเป็นผู้ป่วยติดเตียง และเคยมีคดีจำคุกในเรือนจำ ตนก็เตือนคนรอบข้างมาตลอดให้ระวังอย่าไปยุ่งคับนายเคี่ยม เพราะสติไม่เหลือแล้ว ตนรู้สึกรับไม่ได้กับเหตุการณ์นี้ อยากให้ตำรวจเร่งจับกุมตัวให้ได้เพราะกลัวว่าจะไปทำอันตรายกับคนอื่น ก่อนหน้านี้นายเคี่ยมเป็นคนดี ต่อยมวยช่วยงานที่บ้าน แต่ช่วงที่พ่อกับแม่เลิกรากัน ได้เสพยาเสพติดจนมีปัญหาจนถึงทุกวันนี้
จากการสอบถามพยาน ทราบว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะลงมือฆ่าแม่ตัวเอง ในช่วงที่ผู้เป็นแม่เดินทางกลับมาถึงบ้านหลังจากขายของเสร็จ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ของวานนี้ (28 ก.พ.) จนลูกชายได้ขอเงินแม่เพื่อจะนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพ แต่ปรากฏว่าด้วยความเหนื่อยและอดทนมาเป็นระยะเวลานาน ผู้เป็นแม่น่าจะไม่ให้และบ่นสั่งสอน ลูกชายจึงน่าจะใช้หมัดต่อยและทำร้ายผู้เป็นแม่จนถึงแก่ชีวิต และขโมยเงินของผู้เป็นแม่ไปด้วย หลังก่อเหตุเสร็จได้ขับรถ จยย.ของผู้เป็นแม่หลบหนีไป
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบเฟซบุ๊กผู้ก่อเหตุ ได้โพสต์ภาพร่างของแม่ที่นอนเสียชีวิต และฝ่ามือของตัวเอง พร้อมข้อความระบุว่า "ยมบาล คมหักเหลี่ยมตะวัน + เรียบร้อย" เมื่อช่วง 1 วันที่ผ่านมา
เบื้องต้น ทางกำลังชุดสืบสวนได้ไล่กล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ รวมทั้งเส้นทางที่คาดว่าน่าจะใช้หลบหนี พร้อมทั้งติดตามไปยังบ้านบุคคลใกล้ชิดเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุฆ่าแม่รายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
