วันนี้ (7 มี.ค. 68) พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ความรับผิดชอบ 2 คดี โดยคดีแรก เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 4 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ด่านตรวจยาเสพติดเด่นชัยได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านเส้นทางด่านตรวจ จึงได้จัดกำลังเฝ้าตรวจ พบรถยนต์กระบะต้องสงสัย ขับมุ่งหน้าไป จ.กำแพงเพชร โดยมี นายฐานพัฒน์ เป็นคนขับ ซึ่งตรวจสอบในรถไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังออกตรวจสอบย้อนตามเส้นทาง
ต่อมาพบรถบรรทุกหกล้อ ทะเบียน 700-4340 กรุงเทพมหานคร จอดในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบ พบ นายนันท์นลิน เป็นคนขับ มีท่าทีพิรุธ จึงตรวจค้นในรถพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกล่องกระดาษ รวม 6 ล้านเม็ด ซึ่งเจ้าตัวสารภาพว่ารับจ้างขนยาบ้าจาก จ.ลำพูน ไปส่งปลายทางที่ จ.อ่างทอง
ส่วนคดีที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา ที่ด่านตรวจเอกซเรย์หัวยไร่ อ.ห้วยไร่ จ.แพร่ โดย นายธีรพล คนขับรถบรรทุกหกล้อ ซึ่งได้รับการว่าจ้างลำเลียงสิ่งของจากพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อไปส่งให้ลูกค้าปลายทางที่ จ.พัทลุง แสดงตนขอให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านนำรถเข้าอุโมงค์เอกซเรย์ เนื่องจากเกรงจะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบยาบ้าซุกซ่อนในอะไหล่รถยนต์ ซึ่งเป็นชุดเครื่องเกียร์รถยนต์และถังเครื่องปั๊มลม พบยาบ้ารวม 996,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดของกลาง เพื่อดำเนินการขยายผล จับกุมผู้จ้างวานมาดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมาย
พล.ต.ท.กฤตธาพล เผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายปี พ.ศ. 2567 ต่อเนื่องเดือน ม.ค. 68 พบว่ายาบ้าล็อตใหญ่จากแหล่งผลิตในพื้นที่แนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านถูกเปลี่ยนเส้นทางไปลักลอบนำเข้าในฝั่งชายแดนด้านภาคตะวันตก และทางด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย จากสถิติที่ถูกจับกุมได้ในห้วงที่ผ่านมา แต่ล่าสุดหลังจากที่มีความร่วมมือหลายประเทศในการกวาดล้างอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะกลุ่มก้อนของแก๊งคอลเซนเตอร์ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งฝั่งเมียนมาด้านที่ติดกับทางด้านตะวันตกของไทย รวมทั้งทางฝั่งตะวันออกที่ติดกับประเทศกัมพูชา ทำให้ตอนนี้ประมาณในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เส้นทางยาเสพติดล็อตใหญ่เริ่มกลับเข้ามาใช้เส้นทางภาคเหนือขนลำเลียงเข้าชั้นในอีกครั้ง