แม่ "หมอมุ่ย หูทิพย์" ยืนถือป้าย ขวางถนนหน้าศาลากลางจ.นนทบุรี ประท้วงโรงรับจำนำ ไม่ยอมให้ไถ่ของ เพราะผิดนัดส่งเกินมา 6 วัน
(10 มี.ค.68) นางธิบดิ์ ชื่นเจริญเดชา อายุ 63 ปี แม่ของนายชวิศ ชื่นเจริญเดชา หรือ อาจารย์มุ่ย หูทิพย์ อาจารย์หมอดูชื่อดัง ออกมายืนประท้วงกลางถนนหน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เพื่อประท้วงโรงรับจำนำแห่งหนึ่ง
โดยในมือถือสำเนาเอกสารใบใหญ่ เป็นตั๋วจำนำที่ถูกทางโรงรับจำนำกากบาทปฏิเสธให้ต่อดอกเบี้ย โดยมีพวงมาลัยคล้องที่มืออีก 3 พวง ยืนกลางถนน รถต้องพากันหักหลบ เวลาผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมง ท่ามกลางแดดที่ร้อน นางธิบด์ ยืนจนจะเป็นลม ต้องสลับนั่งอยู่กลางถนน
ต่อมามีเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ภายในศาลากลางจังหวัดนนทบุรี เดินออกมาพูดคุยเจรจา พร้อมพาตัว ไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนนทบุรี เพื่อรับเรื่องราวร้องเรียนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นมาอย่างไร นางธิบดิ์เอาแต่ร้องไห้ และทำท่าจะเป็นลมที่ต้องยืนตากแดดนานกว่า 1 ชั่วโมง จนเจ้าหน้าที่ต้องหาน้ำมาให้ดื่ม
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ และประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม ที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ และ เข้าไปช่วยเจรจา บอกว่า จากที่มองดูมือของคุณป้าสั่นมาก เพราะเสียใจมาก จากการที่ได้เจรจากับคุณป้าท่านนี้ บอกว่าจะไปทำร้ายร่างกายตัวเองที่หน้าโรงรับจำนำ เพราะหาทางออกไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ในทางกฎหมาย มันจะเป็นไปตามสัญญาของแต่ละฝ่าย ซึ่งเราได้เอาสินค้าไปจำนำไว้ ก็มีหน้าที่ไปไถ่ถอนตามระยะเวลา พอเกินระยะทางโรงรับจำนำก็ไม่ทำการต่อสัญญาให้ของจึงขาด
ส่วนเรื่องของการเจรจากับโรงรับจำนำว่าจะให้สามารถต่อได้ไหมหากเกินมาแล้ว 6 วัน ก็ขึ้นอยู่กับการเจรจากับโรงรับจำนำ ถ้าหากตามกฎหมายก็คือขาดแล้วขาดเลย แต่โรงรับจำนำอยู่ในการกำกับการดูแลของมหาดไทย ก็ต้องอาศัยท่านผู้ว่าจังหวัดนนทบุรีให้ท่านช่วยหาทางออกเรื่องนี้ให้ ต
นไม่ได้บอกให้ป้าไปโกงโรงรำจำนำ เพียงแค่อยากให้มันเกิดความพอดีในการบังคับใช้กฎหมาย โดยโรงรับจำนำแต่ละแห่งถึงแม้จะเป็นเอกชน หรือ รัฐบาล มีนโยบายกำกับดูแลจากภาครัฐ อาจจะมีสินค้าบางประเภทที่มีนโยบาย ถ้าหากเอามาจะต้องต่อให้หรือไม่ ก็ต้องไปถามทางมหาดไทยว่ากฎหมายมันเป็นอย่างไร ถ้าหากวันนี้หากทางที่จังหวัดนนทบุรีแก้ไขไม่จบ ตนก็ได้คุยกับคุณป้าให้ใจเย็น ถ้าหากไม่จบก็ให้ไปที่กระทรวงมหาดไทย แต่อย่าคิดสั้นทำร้ายตัวเองแบบนี้
นางธิบดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ต้องการมาเอาเรื่องใคร ตนมาแค่มาขอของของตนคืน สิ่งที่ต้องการคืนมากที่สุดคือแหวน ส่วนครุฑตนยกให้ ตอนแรกเครียดมาก ว่า ตนได้มาสร้างความวุ่นวายหรือไม่ แต่ถ้าหากตนไม่ทำอะไรสักอย่าง หลายคนก็จะเป็นแบบนี้อีกเยอะ
นายจักรพันธ์ ระงับ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด นนทบุรี กล่าวว่า จากการที่คุณป้าได้แจ้งความประสงค์ว่าอยากให้ทางหน่วยราชการของเราไปช่วยดำเนินการในการไถ่ถอนแหวน ซึ่งทางโรงรับจำนำได้แจ้งมาว่าได้ขาดส่งไป ทางศูนย์ดำรงธรรม ฝ่ายปกครองตอนนี้ก็ได้รับเรื่องไว้แล้ว และจะไปดำเนินการให้กับทางผู้ร้องอีกที
สำหรับของมีค่าที่เอาไปจำนำ ก่อนหน้านี้ นางธิบด์แจ้งว่า มี สร้อยคอทองคำ หนัก 5 บาท แหวนเพชรของพี่สาว และครุฑทองคำของลูกชาย ไปจำนำไว้ โดยจะเสียดอกเบี้ยทุก 5 เดือน สำหรับ ครุตทองคำของเจ้าคุณวรา 8 องค์ และ แหวนทองฝังเพชร จำนำได้เงิน จำนวน 150,000 บาท
นางธิบดิ์บอกว่า ด้วยความที่ต้องตามลูกไปดูดวง ทำให้ลืม เมื่อนึกขึ้นได้ ก็รีบเอาเงินมาไถ่ของคืน ปรากฎว่าผิดส่งเงินช้าไป 6 วัน โรงรับจำนำกากบาทใบจำนำทันที ส่วนใบอื่นต่อให้ ที่อยากได้คืนเพราะ แหวนทองฝังเพชร มีคุณค่าทางจิตใจ
