คณะแพทยศาสตร์ มอ.” โชว์ผลงาน ปลูกถ่ายหัวใจสำเร็จ รายแรกของภูมิภาค เผยผู้ป่วยต่อคิว 4 คน เตรียมเปลี่ยนหัวใจ
วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2568 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ แถลงข่าวความสำเร็จ การปลูกถ่ายหัวใจผู้ป่วยโรคหัวใจ สำเร็จเป็นรายแรกของภูมิภาค พร้อมจับมือกับโรงพยาบาลเครือข่ายในพื้นที่ รวมทั้ง สำนักงานหลักประกันสุขภาพ เขด 11–12 เพื่อเชื่อมโยงและพัฒนางานค้านการปลูกถ่ายอวัยวะ ให้ช่วยเหลือผู้ป่วยในภาคใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มโอกาสการมีชีวิตรอดสำหรับผู้ป่วยที่รอรับการปลูกถ่าย อวัยวะ หลังจากที่ทีมแพทย์โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจให้กับผู้ป่วยไรคหัวใจล้มเหลวในระยะสุดท้ายได้สำเร็จ เป็นรายแรกของภูมิภาค เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.ศ. 2568 และขณะนี้ผู้ป่วย สามารถย้ายออกจากห้องไอซียูได้แล้ว และมีอาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผศ.นพ.กิดติพงศ์ เรียบร้อย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เผยว่า โครงการปลูกถ่ายหัวใจ (PSU Heart tramsplantation) เริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ. 2562 ทีมงานปลูกถ่ายหัวใจสงขลานครินทร์ พัฒนาศักยภาพ การรักษาด้วยการปถูกถ่ายหัวใจ เพื่อเป็นที่พึ่งและเป็นความหวังให้ประชาชนในพื้นที่ภาคได้ โดยการช่วยเหลือผู้ป่วย โรคหัวใจระยะสุดท้าย ให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี และเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2567 โรงพยาบาลสงชลานครินทร์ ผ่านการรับรองจากศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ให้เป็นโรงพยาบาลสมาชิกที่สามารถทำการปลูกถ่ายหัวใจได้ และเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้ผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจให้ผู้ป่วยรายแรกในภูมิภาคได้สำเร็จ ซึ่งทีมปลูกถ่ายหัวใจโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้เป็นโรงพยาบาลพี่เลี้ยง สนับสนุนการรับบริจาคอวัยวะและปลูกถ่ายหัวใจได้มีประสิทธิภาพ
ศ.นพ.วรวิทย์ จิตติถาวร หัวหน้าสาขาวิชาศัลยศาสตร์ และหัวหน้าทีมผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เผยว่า ที่ผ่านมาคณะแพทยศาสตร์ มอ. มีการปลูกถ่ายไต และกระจกตา มานานพอสมควร แสดงให้เห็นว่าคณะแพทยศาสตร์ ตั้งใจดำเนินงานานปลูกถ่ายอวัยวะ เพื่อสนองการบริการให้ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งกระบวนการปลูกถ่ายหัวใจ คณะแพทยศาสตร์ มอ. เตรียมความพร้อมของสถานที่ และบุคลากร ส่วนหัวใจที่นำมาปลูกถ่ายให้ผู้ป่วย ก็ได้รับความจาก ผู้บริจาคอวัยวะหัวใจ ที่ จากโรงพยาบาลอื่น ๆ โดยเฉพาะโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่ภาคใต้ โดยต้องนำมาจาก พื้นที่ต่าง ๆ ที่มีระยะทาง จากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ไม่เกิน 250 กิโลเมตร เนื่องจาก การนำหัวใจออกมาจากร่างผู้บริจาค จะมีระยะเวลา เพียง 4 ชั่วโมง เพื่อนำไปใส่ให้กับผู้รอรับบริจาค แล้วปล่อยให้มีเลือดเข้าไปไหลเวียนในหัวใจ ของผู้รับบริจาค แต่ในอนาคตก็จะสามารถรับบริจาคจากส่วนกลางหรือพื้นที่อื่น ๆ ได้แต่ก็ต้องมีการเตรียมความพร้อม ในด้านการขนส่งหัวใจให้อยู่ในระยะเวลาที่เหมาะสม
สำหรับผู้ป่วยรายแรกที่มีการปลูกถ่ายได้สำเร็จเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการดูแลผู้ป่วยในระยะวิกฤต ในหอ อภิบาลผู้ป่วยหนัก ปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่ในห้องปลอดเชื้อ และยังมีการดูแลสัญญาณชีพในภาพรวม โดยหลังการปลูกถ่ายหัวใจแล้วก็จะใช้ระยะเวลา 1 เดือนในการดูแลรักษาผู้ป่วย ว่าจะสามารถ ใช้หัวใจ ร่วมกับ อวัยวะ อื่นในร่างกายได้หรือไม่ ก่อนที่แพทย์จะอนุญาตให้กลับบ้านไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ทั้งนี้ผู้ป่วยที่จะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจ ต้องผ่านกระบวนการ ตรวจอย่างละเอียด ร่วมกันของ สาขาสหวิชาชีพ ก่อนเข้าสู่คณะกรรมการพิจารณา เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยที่เข้าคิวรอปลูกถ่ายหัวใจ 4 คน และในการประชุมคณะกรรมการ พิจารณาแต่ละครั้งก็จะมีผู้ป่วยใหม่ เข้ามาให้พิจารณา แต่ก็ต้องผ่านการตรวจในหลายขั้นตอน ก่อนที่คณะกรรมการ จะสรุป และขึ้นทะเบียนกับสภากาชาดไทยอีกครั้ง ว่าเป็นผู้ป่วยที่รอรับการปลูกถ่ายหัวใจ