เวลา 08.38 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปยังหอประชุมมหาราช อาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2566 เป็นวันที่ 1
โอกาสนี้ ทรงวางพุ่มดอกไม้ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมรูป สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จากนั้น พระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน, พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี รวม 2,352 คน จาก 2 วิทยาลัย 9 คณะ
โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาทความว่า "บัณฑิตเมื่อสำเร็จการศึกษา และก้าวเข้าสู่สังคมแห่งการทำงาน ย่อมจะต้องพบปะผู้คนที่หลากหลาย ทำให้ต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่น คุณธรรมสำคัญประการหนึ่ง ที่จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีดังกล่าว ได้แก่ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ผู้ที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนนั้น คือผู้ที่ตระหนักถึงตนเองตามเป็นจริงว่า ยังมีความบกพร่องและความไม่รู้ในบางเรื่องบางสิ่งอยู่เป็นธรรมดา จำเป็นต้องทำตัวให้พร้อมที่จะเรียนรู้จากผู้อื่น เพื่อพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ บุคคลผู้มีความอ่อนน้อมถ่อมตน จึงเป็นผู้มีสัมมาคารวะ ประพฤติปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพให้เกียรติ ไม่โอ้อวดยกตัวหรือกล่าวโทษลบหลู่ผู้ใด ทำให้เป็นที่รักใคร่เมตตา รวมทั้งได้รับความร่วมมือสนับสนุน และความช่วยเหลือเกื้อกูล โดยเต็มใจยินดีจากทุกคนทุกฝ่าย จึงขอให้บัณฑิตพึงพิจารณา และตั้งใจพยายามฝึกฝนอบรมตนเองให้มีความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นปรกตินิสัย เพราะนอกจากจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็นไปด้วยดีแล้ว ยังจะมีส่วนช่วยให้สังคมเกิดความสมานฉันท์ หลีกเลี่ยงความบาดหมางขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างกันได้ อันจะอำนวยประโยชน์แก่การปฏิบัติหน้าที่การงานของแต่ละคน ตลอดจนการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญมั่นคงอีกด้วย"
เวลา 13.17 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารสิรินธร โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ทรงเปิด "ศูนย์พัฒนลักษณ์" สถานรักษา แก้ไข และฟื้นฟู ภาวะปากแหว่งเพดานโหว่และความผิดปกติของศีรษะและใบหน้า จัดตั้งขึ้นปี 2558 เป็นศูนย์แห่งแรกในเขตภาคเหนือตอนล่าง ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานนามว่า "ศูนย์พัฒนลักษณ์" หมายถึง "ศูนย์ซึ่งเสริมสร้างลักษณะอันเจริญ" พร้อมพระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญอักษรพระนามาภิไธย "ส.ธ." ประดับที่ป้ายชื่อ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการผลการดำเนินงาน 10 ปี ของสถานรักษาแก้ไขภาวะปากแหว่งเพดานโหว่และความผิดปกติของศีรษะและใบหน้า มหาวิทยาลัยนเรศวร เกิดจากความร่วมมือของคณะแพทยศาสตร์ และคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร สร้างทีมผู้เชี่ยวชาญสหวิทยาการกว่า 20 สาขา วางระบบ ขั้นตอน และสร้างนวัตกรรมการดูแลรักษา ตลอดจนฟื้นฟูผู้ป่วยตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยผู้ใหญ่ เพื่อคุณภาพการรักษาที่เทียบเท่ามาตรฐานสากล และยังมีพันธกิจด้านบริการวิชาการและวิจัย เพื่อหาแนวทางป้องกัน รักษา และฟื้นฟูด้วยโครงการต่าง ๆ ได้แก่ จัดประชุมวิชาการนำเสนอผลงานวิจัย เข้าร่วมประชุมวิชาการทั้งในและต่างประเทศ สร้างเครือข่ายการดูแลรักษาผู้ป่วย, จัดตั้งคลินิกตรวจรักษาแบบ One Day Service โดยมีทีมสหสาขาวิชาชีพให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยแบบครบวงจรภายในวันเดียวเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย, โครงการ Cleft Family Day เป็นการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างทีมสหสาขาวิชาชีพ และครอบครัวของผู้ป่วยเพื่อเสริมพลังใจ, จัดทำโปรแกรม Thai Cleft Care Plus ใน Mobile Application ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับบุคลากรทางการแพทย์และ ผู้ปกครองให้ทราบถึงแนวทางการรักษา ทั้งยังจัดตั้งกองทุนเพื่อผู้ป่วย รวมถึงจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ และยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบเคลื่อนย้ายได้ (MobiiScan) เป็นอุปกรณ์การแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยีการสแกนช่วยวิเคราะห์โครงสร้างและการทำงานของร่างกาย สามารถผลิตโมเดลทางการแพทย์ที่แม่นยำ และสร้างแบบจำลองอวัยวะหรือโครงสร้างทางกายวิภาคของผู้ป่วยเพื่อใช้ในการวางแผนการผ่าตัด ให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ตลอด 10 ปี ให้บริการด้านศัลยกรรมผ่าตัดแก้ไข ทันตกรรมจัดฟัน แก้ไขการพูด มีผู้ป่วยมารับบริการ 2,688 คน โดยเป็นกลุ่มทารกแรกเกิด จนถึงวัยผู้ใหญ่
ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับทอดพระเนตรการขับร้องเพลงยิ้มสู้ ซึ่งเป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ขับร้องโดยเด็กที่เข้ารับการรักษาภายในศูนย์ฯ อายุระหว่าง 6-12 ปี