เวลา 10.17 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนครพนม ประจำปีการศึกษา 2566 ณ หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม
ในการนี้ พระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์แด่พระสงฆ์ 2 รูป พระราชทานรางวัลเข็มเชิดชูเกียรติพระธาตุพนมแด่พระสงฆ์ 1 รูป พระราชทานปริญญาบัตรแด่พระสงฆ์ที่สำเร็จการศึกษา 5 รูป
ปีการศึกษา 2566 นี้ สภามหาวิทยาลัยนครพนม มีมติเป็นเอกฉันท์ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการและนวัตกรรมดิจิทัลแด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี กับทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
มีผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ 2 คน ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลเข็มเชิดชูเกียรติพระธาตุพนม 4 คน และมีผู้สำเร็จการศึกษา ในระดับปริญญาดุษฎีบัณฑิต 4 คน ปริญญามหาบัณฑิต 145 คน ประกาศนียบัตรบัณฑิต 165 คน และปริญญาบัณฑิต 1,191 คน จากคณะ และวิทยาลัยต่าง ๆ
โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาทความว่า "ในโอกาสที่บัณฑิตจะได้ออกไปดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพการงาน ข้าพเจ้าขอเชิญพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เกี่ยวกับคุณธรรมสำคัญประการหนึ่ง ซึ่งจะช่วยกำกับประคับประคองชีวิต และการปฏิบัติทุกอย่าง ให้เป็นไปในทางที่ถูกต้อง คุณธรรมข้อนั้นคือสติ หรือความรู้สึกระลึกได้ว่าอะไรเป็นอะไร ครั้งนั้น ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทไว้ว่า "ก่อนที่บุคคลจะทำ จะพูด หรือแม้แต่จะคิดเรื่องต่าง ๆ สติหรือความรู้สึกระลึกได้นั้นจะทำให้หยุดคิดว่าสิ่งที่จะทำนั้นผิดชอบชั่วดีอย่างไร จะมีผลเสียหายหรือจะเป็นประโยชน์อย่างไรต่อไปในระยะยาว เมื่อบุคคลคิดได้ ก็จะสามารถตัดสินการกระทำของตนได้อย่างถูกต้อง แล้วก็จะกระทำแต่เฉพาะสิ่งที่สุจริตที่มีประโยชน์อันยั่งยืน ไม่กระทำสิ่งที่จะเป็นความผิดเสียหาย ทั้งแก่ตนและส่วนรวม ความมีสตินั้นจะช่วยให้สามารถศึกษาทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างละเอียดประณีต คือเมื่อจะศึกษาสิ่งใดก็จะพิจารณากลั่นกรองสิ่งที่มิใช่ความถูกต้องแท้จริงออกเสียก่อน เพื่อให้ได้มาแต่เนื้อแท้ที่ปราศจากโทษ บัณฑิตทั้งปวงผู้หวังความมั่นคงปลอดภัย ทั้งของตน ของชาติบ้านเมือง เมื่อจะทำการงานใด ๆ ที่สำคัญ ควรอย่างยิ่งที่จะหยุดคิดสักหน่อยก่อนทุกครั้ง แล้วท่านจะไม่ต้องประสบกับความผิดหวังและผิดพลาดในชีวิต" จึงขอให้บัณฑิตทุกคน น้อมนำพระบรมราโชวาทที่ได้เชิญมานี้ ไปพิจารณาฝึกตนให้เป็นผู้มีสติรู้ตัวอยู่เสมอ"
เวลา 13.44 น.สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปวัดศรีชมภู อำเภอนาหว้า ทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และยกฉัตรพระธาตุเจดีย์ศรีชมภูสถิตย์ ซึ่งพระครูพิพัฒน์สิริคุณ หรือ หลวงปู่คำไหล ปริสุทฺโธ เจ้าอาวาสวัดศรีชมภู มีดำริจัดสร้างพระธาตุเจดีย์ศรีชมภูสถิตย์ขึ้น เพื่อเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพระภิกษุสามเณร พุทธศาสนิกชน
พระธาตุเจดีย์ศรีชมภูสถิตย์ มีลักษณะรูปทรง 8 เหลี่ยม เส้นผ่าศูนย์กลางฐานกว้างประมาณ 13 เมตร สูง 37 เมตร โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่ออิฐถือปูน ฉาบฝาผนัง ประดับลวดลายปูนปั้น มีพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2551 และมีพิธีเททองยอดฉัตร เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 ซึ่งผู้มีจิตศรัทธาและพุทธศาสนิกชน ได้ร่วมกันบริจาคทองคำ รวม 30 บาท เป็นพุทธบูชา รวมทั้งได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อบรรจุไว้ในพระธาตุเจดีย์ พร้อมทั้งประทานนามว่า "พระธาตุเจดีย์ศรีชมภูสถิตย์"
วัดศรีชมภู ตั้งขึ้นในปี 2448 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง ที่มีผลงานดีเด่นของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ภายในวัด นอกจากจะมีพระธาตุเจดีย์ศรีชมภูสถิตย์ เป็นที่เคารพสักการะแล้ว พระครูพิพัฒน์สิริคุณ (หลวงปู่คำไหล ปริสุทฺโธ) ยังคิดจัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม สำหรับพระภิกษุ-สามเณร, สร้างศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ และศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้าน รวมถึงอาคารพิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณ แสดงเครื่องอัฐบริขาร และสิ่งของที่ประชาชนนำไปถวาย เพื่อให้นักเรียน และผู้สนใจได้เยี่ยมชมเป็นความรู้
จากนั้น ทรงพระดำเนินยังอาคารโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา วัดศรีชมภู ทอดพระเนตรโครงงานของสามเณรนักเรียน โรงเรียนพระปริยัติธรรม จำนวน 5 แห่ง จาก 9 แห่ง ในจังหวัดนครพนม ที่เสริมสร้างความรู้ตามกลุ่มสาระวิชา และประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เป็นความรู้ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ หลังลาสิกขา อาทิ โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาวัดศรีชมภู จัดทำโครงงานการทำลูกประคบสมุนไพร เพื่อศึกษาสมุนไพรที่ใช้เป็นส่วนผสม รวมทั้งทดลองพัฒนาสูตร ตลอดจนรูปแบบบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมเป็นที่ต้องการของตลาด, โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดดาราราม ศึกษาโครงงานเรื่องถุงหอมสมุนไพร ที่พัฒนาความคงทนของกลิ่น, โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดศรีหนาถวิทยา นำความรู้ด้านปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาสร้างความรู้จากโครงงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่ออาหารกลางวัน ด้วยการส่งเสริมการเพาะเห็ดนางรม และเห็ดนางฟ้า ด้านกิจกรรมวิชาการโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดธาตุประสิทธิ์ พัฒนาทักษะทางวิชาการต่าง ๆ, ส่วนโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดมหาธาตุ ส่งเสริมให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ ถ่ายทอดหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ตลอดจนปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม แก่เยาวชน ด้วยการจัดการประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะ โครงงานต่าง ๆ นี้ ช่วยเสริมสร้างให้สามเณรนักเรียนได้ศึกษา ค้นคว้า เกิดการจดจำ และเป็นความรู้ที่ยั่งยืน
