คนร้ายชิงทอง 160 บาท ในห้างฯ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่แท้คือ ทหารยศ พ.จ.อ. อ้างต้องการหาเงินใช้หนี้ แวะเข้าห้องน้ำที่ห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุ เห็นร้านทองเข้าออกสะดวก จึงก่อเหตุ
27 มีนาคม 2568 จากกรณีคนร้ายเป็นชาย ใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณ ห้างทองชื่อดัง ภายในห้างสรรพสินค้าริมถนนสายเอเชียขาออก ต.เชียงรากน้อย บางปะอิน ริมถนนสายเอเชีย โดยทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป คือสร้อยคอทองคำ รวมทั้งสิ้นน้ำหนัก 160 บาท มูลค่าประมาณ 7.8 ล้านบาท เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มี.ค. ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค1 ชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ชุดสืบสวน สภ.พระอินทร์ราชา ติดตามไปจับกุมคนร้าย ที่ก่อเหตุได้พื้นที่จ.ปทุมธานี พร้อมด้วย เสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ ทองรูปพรรณรถยนต์กระบะ อาวุธปืน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 27 มีนาคม 2668 ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรพระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดเตรียมสถานที่ในการแถลงข่าวพร้อมนำของกลางเสื้อผ้าชุดที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุพร้อมด้วยของกลางรถยนต์กระบะโตโยต้าสีบรอนซ์ โดยจะมีการแถลงข่าวในช่วงเวลา 11.00น.โดยในเบื้องต้นจากการสืบสวน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แกะรอยกล้องวงจรปิด จนพบความเคลื่อนไหว ว่ามีรถยนต์กระบะมาจอดไว้ก่อนเกิดเหตุ และช่วงเกิดเหตุ สืบสวนขยายผล รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถ ขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับ นายวรพจน์ อายุ 43 ปี (ทหารยศ พ.จ.อ )
ในข้อหา 1.ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่เห็นหรือจำหน้าได้โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกลุ่ม
2.พกพาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยอนุญาตให้มีวุฒิปืนติดตัวไปเว้นแต่กรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และโดยเปิดเผยและไม่มีเหตุอันสมควร
ติดตามไปจับกุมตัวได้ พร้อมของกลาง เสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ อาวุธปืน รถยนต์กระบะ
จากการสอบสวนในเบื้องต้นให้การยอมรับสารภาพว่ามีปัญหาในเรื่องของหนี้สิน พยามที่จะหากู้เงิน เพื่อมาชำระหนี้สิน แต่ไม่สามารถหาได้ก่อนเกิดเหตุได้มาจอดแวะเข้าห้องน้ำที่ห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุ พบเห็นร้านทอง เข้าออกได้สะดวก จึงกลับไปคิดและวางแผนอีกครั้งมาลงมือก่อเหตุ