ห้องข่าวภาคเที่ยง - หนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยให้การจับกุมทุจริตยา ในโรงพยาบาลทหารผ่านศึก สำเร็จได้ก็ต้องขอบคุณ "ก้อย" พลเมืองดี ที่เก็บข้อมูลการทุจริตไว้อย่างละเอียด และไว้ใจหน่วยงานภาครัฐ จนนำไปสู่การจับกุมได้สำเร็จ ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าขบวนการไม่ได้มีแค่นี้ ยังมีอีกเยอะที่ต้องทำการบ้านต่อ
1 ปี 9 เดือน 24 วัน คือระยะเวลาที่เธอรวบรวมข้อมูลการกระทำผิด แล้วรอจนถึงวันที่ได้เห็นเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตยา ในโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ได้จริง ๆ นางสาวพัชนีย์ หรือ "ก้อย" พลเมืองดี จึงอยากเข้าไปขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ช่วยกันทำเรื่องนี้จนสำเร็จ
ซึ่งความดีที่เธอทำ โซเชียลฯ ก็ขอบคุณ และยกให้เธอเป็นวีรสตรีด้วย บางคอมเมนต์ยังห่วงว่าการที่เธอออกมาเปิดเผยตัวแบบนี้ จะเป็นอันตรายกับเธอในอนาคตไหม แต่มั่นใจว่าคงยาก เพราะอยู่ในสายตาตำรวจอยู่แล้ว
เรื่องความคืบหน้าคดี พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมหลายเรื่องที่น่าสนใจ เอาเรื่องสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 12 คน ก่อน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา "แต่" ก็มีบางคนให้การรับสารภาพ ในส่วนที่เป็นข้อเท็จจริง ส่วนร้านขายยา 11 แห่ง จากการสอบปากคำ ได้ให้การภาคเสธ คือยอมรับว่า ได้ซื้อยามาจากผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมจริง แต่ไม่รู้ว่ายาที่เอามาขาย ได้มาจากการทุจริต ซึ่งอันนี้ตำรวจกำลังพิจารณาเรื่องความผิดอยู่
ประเด็นที่น่าสนใจต่อมาคือ การขยายผลเอาผิดกับ "แพทย์หญิงบรินดา" ชุดสืบสวนใช้คำว่า "มีความระมัดระวังตัวอย่างดี" เพราะสุดท้ายแล้ว ไปเจอความเชื่อมโยงเข้าจริง ๆ ว่าได้รับผลประโยชน์ นอกเหนือจากค่าบริการทางการแพทย์อย่างเดียว เนื่องจากไปเจอกลุ่มพยาบาลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ที่ตอนนี้ถูกกันตัวเป็นพยาน ยอมรับว่า ได้ช่วยรับโอนเงิน หรือไปเบิกถอนเป็นเงินสดให้กับ "แพทย์หญิงบรินดา"
แน่นอนว่าคดีนี้แม้จะจับกุมไปแล้ว แต่ก็ยังต้องเรียกสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหลายคน และยังมีคนที่ต้องออกหมายเรียกและหมายจับอื่น ๆ อีก ตอนนี้ตำรวจขอเวลาดำเนินการขยายผลก่อน