เมื่อวาน ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ซึ่งตรงกับเช้าตรู่ วันนี้ (3เมย.68) ตามเวลาประเทศไทย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศมาตรการภาษีการค้าชุดใหม่ ตามที่ระบุไว้ล่วงหน้าว่า เป็น "วันปลดแอก" ทางการค้าของสหรัฐฯ ไม่ยอมเสียเปรียบดุลการค้าชาติอื่นอีกต่อไป
โดยจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทุกประเทศ ที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ อย่างน้อย 10% ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน ส่วนประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ สูงมากและถูกมองว่าเอาเปรียบทางการค้าจะถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้สูงกว่านั้น เริ่มวันที่ 9 เมษายน ที่มีผลทันที คือการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ และภาษีรถบรรทุกขนาดเล็ก 25%ในวันนี้ ซึ่งจะกระทบประเทศผู้ส่งออกหลายประเทศอาทิ จีน, สหภาพยุโรป, ญี่ปุ่น ฯลฯ
เมื่อ 2 เม.ย. 2568 โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ลงนามบังคับใช้มาตรการเก็บ "ภาษีพื้นฐาน" (baseline tariff) ในอัตรา 10% ต่อสินค้าทั้งหมดจากทุกประเทศที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ หมายความว่าผู้นำเข้าชาวอเมริกันจะต้องจ่ายเงินเพิ่มแก่รัฐบาลจากการนำเข้าสินค้าที่ผลิตในต่างประเทศ โดยจะเริ่มในเวลา 0.01 น.วันเสาร์ที่ 5 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น
นอกจากนั้น นายทรัมป์ยังประกาศจะเก็บ "ภาษีต่างตอบแทน" (reciprocal tariff) ต่อหลายสิบประเทศ ที่สหรัฐฯ ขาดดุลทางการค้าด้วยมากที่สุด โดยจะเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้าจากประเทศเหล่านี้ในอัตราครึ่งหนึ่ง จากอัตราภาษีที่ประเทศเหล่านี้ตั้งไว้ต่อสินค้าจากสหรัฐฯ โดยจะเริ่มในวันที่ 9 เม.ย.ตามเวลาท้องถิ่น
ตามที่นายทรัมป์เปิดเผย สหรัฐฯ ประเทศที่จะถูกเก็บภาษีต่างตอบแทนได้แก่
สหราชอาณาจักร, บราซิล, สิงคโปร์, ชิลี, ออสเตรเลีย, ตุรกี, โคลัมเบีย, เปรู, คอสตาริกา, โดมินิกัน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, นิวซีแลนด์, อาร์เจนตินา, เอกวาดอร์, กัวเตมาลา, ฮอนดูรัส, อียิปต์, ซาอุดีอาระเบีย, เอลซัลวาดอร์, ตรินิแดดและโตเบโก, โมร็อกโก - 10%
นอร์เวย์ – 15%
อิสราเอล, ฟิลิปปินส์ - 17%
นิการากัว – 18%
สหภาพยุโรป, จอร์แดน - 20%
โกตดิวัวร์ – 21%
ญี่ปุ่น, มาเลเซีย - 24%
เกาหลีใต้ - 25%
อินเดีย – 26%
คาซัคสถาน – 27%
ตูนิเซีย – 28%
ปากีสถาน – 29%
แอฟริกาใต้ – 30%
สวิตเซอร์แลนด์ – 31%
ไต้หวัน, อินโดนีเซีย – 32%
จีน – 34%
ไทย – 36%
บังกลาเทศ, เซอร์เบีย, บอตสวานา – 37%
ศรีลังกา, เมียนมา – 44%
เวียดนาม – 46%
มาดากัสการ์ – 47%
ลาว – 48%
กัมพูชา – 49%
สำหรับประเทศไทยซึ่งอยู่ในข่ายได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ มาก จะถูกเรียกเก็บ ภาษีตอบโต้ ในอัตรา 36% ขณะที่เวียดนาม จะถูกเรียกเก็บภาษี 46% ส่วนจีนจะถูกเก็บภาษี 34% แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่าพร้อมเจรจาต่อรองลดอัตราภาษี หากลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ แต่หากประเทศใดขึ้นภาษีตอบโต้สินค้าจากสหรัฐฯ เขาจะเพิ่มอัตราขึ้นอีก คาดว่าตลาดหุ้นหลักทั่วโลกในวันนี้น่าจะปรับตัวลดลงอย่างแน่นอน
ขณะที่ จีน ซึ่งเป็นประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ มากที่สุด เพิ่งหารือทางเศรษฐกิจร่วมกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี เพื่อหาแนวทางรับมือมาตรการภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ พร้อมตอบโต้แบบแรงมาแรงไป ซึ่งอาจทำให้เกิดสงครามการค้าโลกรอบใหม่