ข่าวเย็นประเด็นร้อน - แม้ก่อนหน้านี้ "ฮอต" อดีตแฟนของ "คะน้า" นักแสดงสาว จะยังไม่มีสถานะเป็นผู้ต้องหา แต่ตอนนี้เป็นแล้วแน่นอน เพราะมีหมายศาลคดีค้างเก่า และตำรวจก็ไปพาตัวส่งศาลฯ ดำเนินคดีแล้วเรียบร้อย
นี่เป็นภาพตอนที่ตำรวจนำหมายศาลอาญาตลิ่งชัน ไปอ่านต่อหน้า นายธัญเทพ หรือ "ฮอต" อดีตแฟนของ "คะน้า ริญญารัตน์" นักแสดงสาว ขณะกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนพรัตน์
ก่อนที่ต่อมา แพทย์จะวินิจฉัยว่า แม้ "ฮอต" จะกระดูกสันหลังแตก แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรง ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ให้ออกจากโรงพยาบาลได้วันนี้ แต่ยังต้องใส่เสื้อบล็อกหลังไว้ก่อน พนักงานสอบสวนเลยพาตัวไปส่งศาลอาญาตลิ่งชัน ซึ่งก็ต้องลุ้นกันอีกที ว่าจะได้ประกันตัวหรือไม่ หรือเข้าเรือนจำตามคำพิพากษาไปก่อนเลย
ที่ต้องลุ้นก็เพราะถ้าเจ้าตัวได้รับการประกันตัว งานเหนื่อยก็จะมาอยู่ที่ทางฝั่งตำรวจกองปราบฯ ที่เพิ่งจะรับแจ้งความจากผู้เสียหายไปหมาด ๆ ต้องจับตาดูให้ดีว่าจะยังอยู่ในไทยไม่ได้หนีไปไหน แล้วถ้าหมายจับออกก็จะไปเรียกเจ้าตัวมารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งคดีที่ทางกองปราบฯ ตั้งไว้ เรียกได้ว่าโดนแบบจุก ๆ
โดยเฉพาะภาพนี้ ดูเผิน ๆ สำหรับคนที่ไม่รู้ก็จะเข้าใจว่าเป็นผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และสายสะพาย มีศักดิ์ มีเกียรติ ใกล้ชิดเบื้องสูง แต่ปัญหาก็คือที่มาของสายสะพายเส้นสีแดงนี้ "กัน จอมพลัง" โพสต์ว่า คนที่จะได้ สายสะพายสายที่ 4 ซึ่งเป็นสายสูงสุดของข้าราชการพลเรือน บางคนกว่าจะได้มาต้องทำงานมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี แต่ "ฮอต" อายุแค่ประมาณ 30 ปี จึงเป็นไปไม่ได้
ส่วนที่คุณผู้ชมเห็นนี้ คือเงื่อนไขที่เราสรุปมา เป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐาน เริ่มจากเป็นข้าราชการ หรือบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ ไม่มีประวัติด่างพร้อย ไม่เคยต้องโทษทางอาญา มีคุณความดี หรือผลงานเป็นที่ประจักษ์ ต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสนอชื่อ และต้องได้รับเครื่องราชฯ สายที่ต่ำกว่ามาก่อน
ซึ่งเมื่อไปรวมกับเรื่องการส่งแช็ตข้อความไปหลอกสาว ๆ ว่า ต้องไปเข้าเฝ้า ต้องไปทำแบบนั้นแบบนี้ เลยทำให้ความผิดที่เกิดขึ้น รวม ๆ แล้วหลายข้อหา ตั้งแต่ ความผิดฐานฉ้อโกง, แอบอ้างเบื้องสูง, ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม, ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดเกี่ยวกับการแอบอ้างแต่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ซึ่งคาดว่าบางข้อหาสามารถขอศาลฯ ออกหมายจับได้ภายในสัปดาห์นี้ และที่วันนี้จะมีผู้เสียหายอีกกลุ่ม นำเอาแช็ตที่ "ฮอต" เคยแอบอ้างมาเป็นหลักฐาน ทางกองปราบฯ ก็เตรียมพนักงานสอบสวนรอไว้แล้ว
พูดถึงเรื่องทางคดี ผู้เสียหายกลุ่มใหม่ เล่าให้ฟังว่า ทนเก็บเรื่องนี้มานานถึง 8 ปี รู้จักกับ "ฮอต" เพราะเคยเป็นลูกค้าที่ร้าน ต้องยอมรับว่าช่วงแรก ๆ พูดดี คารมดี เอาใจเก่ง เป็นแบบนี้อยู่นานเกือบปี จนได้คบหาเป็นแฟนกัน ต่อมาก็เริ่มมีพฤติกรรมโอ้อวด ตนเคยจับได้ว่าอดีตแฟน ใช้ Fake call ตั้งเวลา โทร.เข้ามา แล้วบอกว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เพราะแอปฯ บันทึกเสียง บันทึกไว้เป็นเสียง "ฮอต" คุยคนเดียว เรื่องเริ่มหนักตอนซื้อบ้าน แล้วไม่ให้ไปอยู่ ทำไม่เสร็จเสียที ถ้าจับไม่ได้ไล่ไม่ทันก็จะไม่ยอมรับเรื่องที่ตัวเองโกหก
ส่วน "คะน้า ริญญารัตน์" ก็เคลียร์ประเด็นต่าง ๆ ทั้งเรื่อง "ไผ่ ลิกค์" ที่ยืนยันว่าได้คุยกันแล้ว พี่ไผ่ ไม่ได้โกรธ คอมเมนต์ต่าง ๆ ในโซเชียลฯ ก็เข้าใจว่าทำไมคิดแบบนั้น แต่ก็อยากให้เข้าใจเหมือนกันว่าถ้าไม่เจอกับตัวเองคงไม่รู้ โดยเฉพาะคนที่ตั้งใจจะทำให้รัก หรือชอบ และเรื่องนี้ก็คงเป็นบทเรียนราคาดีที่ต้องทบทวนไปอีกนาน