หนุ่มน้อยใจแฟนสาวส่งข้อความทางแช็ตขอจบชีวิต จึงรีบมาดู พบเจ้าหน้าที่กำลังเข้าช่วยชีวิตไว้ได้
วันนี้ (11 เม.ย.68) ทางตำรวจ สภ.ศรีมหาโพธิ ได้รับแจ้งว่า มีคนทะเลาะกันแล้วมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ที่ห้องเช่าในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจพร้อมกำลังได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เป็นห้องเช่าห้องที่ 3 มีประตูเหล็กและผ้าใบกั้นอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่กล้าเข้าไปภายใน เนื่องจากได้รับแจ้งว่ามีเสียงปืนในที่เกิดเหตุ จนกระทั่งน้องชายผู้ก่อเหตุเดินทางมาถึง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้เดินเข้าไปตรวจ เมื่อเปิดประตูเหล็กเข้าไปพบร่างของนายสุวิทย์ อายุ 29 ปี ใช้เชือกแขวนคอกับโครงหลังคาเหล็กหน้าบ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยก็ตัดเชือกและนำร่างลงมาไว้กับพื้น ให้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเข้ามาปฐมพยาบาลจนมีชีพจรขึ้นมา ก่อนนำตังส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบขวดเบียร์เปล่า จำนวน 2 ขวด ซึ่งคาดว่าเจ้าตัวอาจดื่มเบียร์เพื่อย้อมใจ ก่อนผูกคอแต่เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยได้ทันไม่เสียชีวิต
จากการสอบถาม น.ส.กัญญาภัค (ภรรยาผู้ก่อเหตุ) บอกว่า ตนเองกับสามีทำงานคนละที่ เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ห้องพักตรงนี้ได้ประมาณ 3-4 เดือน พักหลังทะเลาะกันบ่อย เนื่องจากสามีเกิดความหึงหวงและมีอะไรไม่ค่อยเข้าใจกันหลายครั้ง และมาวันนี้ทางสามีได้ส่งข้อความทางแช็ตไปบอกว่าจะฆ่าตัวตายจึงได้โทรแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อมาถึงก็พบว่าสามีกำลังคิดฆ่าตัวตายจริงอย่างที่ส่งในแช็ตบอกรายละเอียดเพียงเท่านี้
ส่วนครั้งแรกที่มีการแจ้งว่าผัวเมียทะเลาะกันนั้นไม่รู้ว่าใครเป็นคนแจ้ง ทั้งพี่ตนเองก็ไม่ได้อยู่ในห้องที่เกิดเหตุบอกว่า เพิ่งกลับมาตอนที่สามีแช็ตไปบอกว่าจะฆ่าตัวตาย แล้วกลับมาก็เจออยู่สภาพแบบนี้ไม่ทราบเหมือนกัน มีใครแจ้งว่าผัวเมียทะเลาะกันแน่ ได้ยินเสียงปืนจนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงและได้ช่วยการตัดเชือกที่สามีผูกคอตนเองไว้ได้
จ.ส.ต.วชิรวิชย์ สีวิเส็ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่เข้ามาช่วยเหลือได้ทัน กล่าวว่า เราได้รับแจ้งประมาณ 12.45 น. เรามาถึงที่เกิดเหตุประมาณ 12.53 น. เมื่อมาถึงตอนนั้นเรายังเข้าที่เกิดเหตุไม่ได้ เพราะว่าคนที่แจ้งไปแจ้งว่าเขามีอาวุธปืน เราก็เลยต้องรอทีมที่มีโล่และปืนยาวเพื่อเตรียมพร้อมที่จะเข้า พอมาถึงก็เจอผู้แจ้งเป็นแฟนของผู้ชาย พี่ผู้หญิงก็ให้รอเพื่อที่จะเข้าบ้านแต่ผู้หญิงไม่กล้าเข้า ก็เลยรอน้องของผู้ชายมาก่อน หัวหน้าทีมก็เลยให้น้องชายของคนที่จะผูกคอตายเข้ามาคุยกับเขาก่อนพอน้องชายเข้ามาถึงก็เจอพี่ผู้ชายกำลังผูกคออยู่เขาก็ตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่ผมก็รีบวิ่งมา ตอนนั้นเขาเริ่มไม่มีสติหน้าเริ่มดำ น่าจะขาดอากาศหายใจ