ชาวบ้านผวา หนุ่มคลั่งแทงคอ-ฟันหัวเพื่อนบ้าน เจ็บสาหัส 2 ราย ญาติผู้เสียหายไม่เชื่อป่วยจิตเวช ด้านเมีย เผย ก่อนก่อเหตุขังตัวเองในห้อง 5 วัน
วันนี้ (16 เม.ย.68) พ.ต.ท. สมบัติ ซุ่นฮั้ว รอง ผกก.(ป) พร้อมด้วย พ.ต.ท. เสกสรร เขียดสังข์ พนักงานสอบสวน สภ.ควนกาหลง เดินทางไปตรวจสอบบ้านของนายรอศักดิ์ อายุ 65 ปี หลังจาก น.ส.บุษาวรรณ อายุ 35 ปี ลูกสาวเข้าแจ้งความว่า มีคนคลุ้มคลั่งบุกใช้มีดพร้าฟันที่ศีรษะและที่แขนของพ่อลึกถึงกระดูกอาการสาหัส เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่15 เม.ย.68
โดยบ้านหลังดังกล่าวหน้าบ้านและในบ้านมีรอยเลือดเต็มพื้น จากการสอบสวนในที่เกิดเหตุทราบว่า ขณะเกิดเหตุนายรอศักดิ์ ผู้บาดเจ็บนอนหลับอยู่ในบ้าน โดยมีหลานชาย อายุ 11 ปี นั่งเล่นเกมอยู่ ต่อมามีคนร้ายทราบชื่อภายหลังคือนายอับบัส อายุ 28 ปี เดินเข้ามาในบ้านผู้บาดเจ็บโดยมีไฟฉายคาดไว้ที่ศีรษะ จากนั้นก็เข้าไปทำร้ายผู้บาดเจ็บ จนอาการสาหัส ส่วนหลานชายได้หลบหลังประตูจึงปลอดภัย ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเก็บหลักฐานในพื้นที่
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบบ้านพักหลังหนึ่งห่างจากบ้านนายรอศักดิ์ ประมาณ 150 เมตร ซึ่งเป็นบ้านที่ผู้ก่อเหตุบุกเข้าไปแทงคอคนในบ้านก่อนที่จะบุกมาฟันนายรอศักดิ์ ซึ่งอาการคลั่งของผู้ก่อเหตุที่ลงมือทำร้ายเพื่อนบ้านทั้ง 2 ราย ทำให้ญาติผู้ก่อเหตุได้ช่วยกันจับกุมตัวผู้ก่อเหตุส่ง รพ.สตูล เพื่อสงบสติอารมณ์และรักษาอาการทางจิตเวช
ด้าน น.ส. บุษบาวรรณ ลูกสาวนายรอศักดิ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุพ่อนอนหลับแล้ว แต่เด็กยังนั่งเล่นเกมอยู่ ส่วนตนนอนอยู่กับแฟนในห้องเวลา 23.00 น. ได้ยินเสียงพ่อโวยวายนึกว่าไล่แมว แต่เมื่อฟังดูคิดว่าไม่ใช่แล้ว จึงเรียกแฟนให้ลุกขึ้นไปดูก็เห็นพ่อถูกฟันเลือดไหลพ่อจับแขนเดินมาหา ส่วนคนร้ายวิ่งออกไปด้านนอก ตนและแฟนวิ่งตามแต่ไม่ทัน ตนรีบมาดูพ่อก่อน คนก่อเหตุนั้นตนก็รู้จัก เพราะเป็นคนที่เห็นหน้ากันอยู่บ้านใกล้กัน ก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุได้ไปทำงานอยู่ที่ กทม. ประมาณ 1-2 ปี เวลาเทศกาลเขาก็กลับมาก็เห็นกัน ยิ้มกันอยู่ปกติ ไม่เคยมีเหตุบาดหมางอะไรกัน ก่อนหน้านี้ 1 วัน ก็เห็นขับรถผ่านก็หันมายิ้มกันอยู่
ทั้งนี้ เมื่อพาพ่อไปถึง รพ.ก็พบเพื่อนบ้านอีก 1 ราย เขาเข้าใจว่าตนไปเยี่ยมเขา ตนบอกว่าพ่อถูกฟันเขาก็บอกว่าแฟนเขาก็ถูกผู้ก่อเหตุรายเดียวกันแทงเข้าที่คอด้านซ้ายเหมือนกัน จึงคิดว่าชาวบ้านในพื้นที่ไม่ปลอดภัยแล้ว ทางบ้านเขาบอกว่าผู้ก่อเหตุป่วยจิตเวช แต่ตนคิดว่าหากป่วยจริงทำไมถึงทำงานเป็น รปภ.ได้ อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี เพราะชาวบ้านหวาดผวา
ด้าน น.ส.ฟารีด๊ะ อายุ 33 ปี ภรรยาของนายสมมาตร อายุ 34 ปี ผู้บาดเจ็บที่ถูกแทงคอ เล่าให้ฟังว่า คนร้ายเข้ามานั่งเล่นอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งมีคนในบ้านนั่งอยู่ 3-4 คนเป็นญาติกัน โดยแฟนของตนนั่งอยู่บนเปล ผู้ก่อเหตุเข้ามานั่งตั้งแต่เวลา 21.00 น.โดยไม่พูดคุยอะไรเลย ต่อมาเวลา 22.00 น. ผู้ก่อเหตุเอาผ้าไปปิดหลอดไฟแล้วมานั่งต่อ รอบที่สอนเขาลุกไปถอดปลั๊กไฟ ทำให้บ้านมืด จากนั้นก็ใช้มีดแทงที่ต้นคอด้านซ้ายของแฟน เมื่อแทงเสร็จก็หนีไปเลย ตอนนี้รอดูอาการแฟนอยู่ ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิต เพราะเขาไปทำงานที่ กทม. เพิ่งกลับมาช่วงฮารีรายา ต้นเดือน เม.ย.นี้เอง เมื่อคืนตนได้เจอภรรยาผู้ก่อเหตุเล่าให้ฟังว่า ผู้ก่อเหตุขังตัวเองในห้องไม่พูดคุยกับใครมา 5 วันแล้ว ซึ่งภรรยาเขาก็กลัว เพราะเขาท้องใกล้คลอดแล้ว จึงไปอาศัยอยู่บ้านพ่อ สำหรับตนตอนแรกยังคิดว่าเขาทะเลาะกับแฟน หรือมีเรื่องกันมาก่อน แต่แฟนบอกว่าไม่มี เขาคลุ้มคลั่งขึ้นมาแล้วลงมือก่อเหตุ ซึ่งตนก็กลัวเหมือนกัน เพราะคืนเดียวก่อเหตุ 2 รายซ้อน
ขณะที่ นายอุสมาน มรรคาเขต ผู้ใหญ่บ้าน ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล เผยว่า ผู้ก่อเหตุมีนิสัยก้าวร้าว และเป็นผู้ป่วยจิตเวช เคยเสพยาเสพติดด้วย ก่อนหน้านี้เคยนำไปบำบัดแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่กลับมาจาก กทม.ก็ไม่เคยมีอาการอะไร ชาวบ้านเลยไม่รู้ว่าเขาเป็นจิตเวช อาการที่คลุ้มคลั่งน่าจะเกิดจากการเสพยาเกินขนาด ตอนนี้ทางครอบครัวเขาก็ติดต่อมาว่าจะขอเข้ามอบตัวแล้ว อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน หากออกจากรพ.ก็สามารถออกหมายจับได้