ผัวสะพายปืนแก๊ปไปยิงไก่ที่เถียงนา เมียออกมาดูพบนอนตายข้างสระน้ำ มีกระสุนเข้าบริเวณขมับซ้าย ด้านครอบครัวคาดว่าปืนลั่น
วันนี้ (17 เม.ย.68) พ.ต.ต.สนธยา หิตายะโส สว.(สอบสวน) สภ.เพ็ญ ได้รับแจ้งเหตุ มีคนถูกยิงเสียชีวิต ที่เถียงนาท้ายบ้านโคกโฮง หมู่ 3 ต.โคกกลาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี จึงพร้อมด้วยตำรวจสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.เพ็ญ อาสากู้ภัยสว่างเมธาธรรม จุด อ.เพ็ญ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบศพนายโสภา อายุ 53 ปี ชาว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด อาวุธปืนแก๊ปยาววางอยู่ที่พื้นใกล้ศพ พบกระเป๋าภายในมีกระปุกสีขาวบรรจุกระสุนลูกปราย กากมะพร้าว แก็ป ดินปืน กรรไกร มีดแหลม มีดคัดเตอร์ โดยมี “เจ้ากาก้า” สุนัขของผู้ตายนั่งเฝ้าศพตลอดไม่ห่าง จากการชันสูตรพบถูกยิงด้วยกระสุนลูกปลายเข้าบริเวณขมับซ้าย กระสุนตุงขมับขวา
ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนกับผู้ตายมีลูกสาว 1 คน ผู้ตายมีนิสัยไม่ค่อยพูด มีโรคประจำตัวคือความดัน ทุกวันผู้ตายจะขี่รถจักรยานยนต์ออกมาที่เถียงนาเพื่อมาให้อาหาร “เจ้ากาก้า” สุนัขตัวผู้ พันธุ์ไทย สีน้ำตาลแดง ของผู้ตาย และมาดูไก่ที่ผู้ตายเลี้ยงไว้ตามธรรมชาติ ไม่ได้ขังไว้ในคอก หลังกินข้าวเช้า เวลาประมาณ 07.00 น. ผู้ตายออกมาให้อาหารเจ้ากาก้า และบอกว่าจะไปยิงไก่มาทำอาหาร จึงสะพายปืนแก๊ปมาด้วย
“หลังจากสามีขี่รถจักรยานยนต์มาที่เถียงนาไม่นาน ก็ได้โทรศัพท์หาสามี โทร 2 ครั้งก็ยังไม่รับสาย ก็รู้สึกว่าผิดปกติ จึงขี่รถจักรยานยนต์ออกมาดู ก็พบสามีนอนเสียชีวิตอยู่ริมสระ มีแผลถูกยิงที่ขมับ จึงรีบขี่รถเข้าไปเรียกญาติพี่น้องให้ออกมาดู และแจ้งตำรวจ ส่วนตัวคิดว่าปืนจะลั่น ซึ่งตนไม่มีลางสังหรณ์ล่วงหน้าเลย”
ส่วนนายควร อายุ 68 ปี มีเถียงนาอยู่ใกล้กัน เล่าว่า ตนออกมาเถียงนาเพื่อให้อาหารหมู แต่ได้ยินเสียงปืนดังตู้ม 1 นัด แต่เสียงไม่ดังมาก แต่ก็ไม่ได้มาดูว่าใครยิงปืน หลังจากกลับเข้าไปในบ้าน จึงรู้ว่าผู้ตายถูกยิงตาย ซึ่งผู้ตายจะออกมาดูไก่ประจำและมายิงไก่ คาดว่าผู้ตายจะมายิงไก่ แต่ผู้ตายมีโรคประจำตัวคือเบาหวาน ความดัน เคยได้ยินผู้ตายบ่นเหนื่อย อาจจะเครียด ซึ่งไม่นานมานี้ก็ขายวัวยกคอกไปแล้ว
จากการสอบสวนตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายมาให้อาหารเจ้ากาก้าเสร็จแล้ว ได้นำปืนแก๊ปมาซุ่มยิงไก่ที่เลี้ยงไว้ ซึ่งเลี้ยงแบบปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติ โดยบรรจุกระสุนปืนเรียบร้อยพร้อมยิง แต่ขณะนั่งซุ่มอยู่ริมสระน้ำ ปืนเกิดลั่นใส่ขมับซ้าย ทำให้เสียชีวิตคาที่ ผู้ตายไม่มีแรงจูงใจจะฆ่าตัวตาย และไม่มีศัตรูจะมาทำร้าย ญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป