เวลา 10.24 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังสวนสมเด็จเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (สวนแม่ สวนลูก) อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ทรงเปิดพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งมูลนิธิสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จัดสร้างขึ้น เพื่อให้สอดคล้องและมีลักษณะเช่นเดียวกับสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ สกลนคร ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกันและมีพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประดิษฐานอยู่ มูลนิธิฯ จึงให้กรมศิลปากร ออกแบบพระอนุสาวรีย์ มีขนาดเท่าครึ่งของพระองค์จริง หล่อด้วยโลหะ ใช้งบประมาณของจังหวัดสกลนคร ส่วนแท่นฐานพระอนุสาวรีย์ ได้รับงบประมาณจากกรมโยธาธิการและผังเมือง ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2563 มีเทศบาลนครสกลนคร เป็นหน่วยรับผิดชอบ ดูแลรักษา โอกาสนี้ ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นคำจารึก ทรงวางพุ่มดอกไม้ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระอนุสาวรีย์ฯ
สวนสมเด็จเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือ "สวนแม่ สวนลูก" มีพื้นที่ 20 ไร่ ตั้งอยู่ริมหนองหารด้านทิศศตะวันออก สร้างแล้วเสร็จเมื่อ ปี 2546 ได้ขอพระราชทานชื่อ สวนสมเด็จเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (สวนแม่ สวนลูก) เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 80 พรรษา เป็นสวนแม่ สวนลูกแห่งที่ 2 ของประเทศ โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2551 ส่วนแห่งนี้เป็นเสมือนอนุสรณ์แห่งความรัก ความผูกพัน และใช้ประโยชน์พักผ่อนหย่อนใจร่วมกันของประชาชน
เวลา 13.22 น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ซึ่งเปิดให้บริการเป็นแห่งที่ 110 ของประเทศ โดยสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดหนองคาย ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคีเครือข่าย และประชาชน จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ และสนองพระราชดำริ ในการส่งเสริมการศึกษา พัฒนารูปแบบห้องสมุดประชาชนให้มีคุณภาพ
ก่อสร้างเป็นอาคารชั้นเดียว ออกแบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แสดงถึงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมของจังหวัดหนองคาย เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการเข้าถึงของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัย ในการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ที่หลากหลาย เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ให้ประชาชนสามารถเข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ หรือเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมได้อย่างต่อเนื่อง
แบ่งพื้นที่บริการเป็นมุมต่าง ๆ อาทิ มุมเด็ก มีสื่อการเรียนรู้ 135 รายการ, พื้นที่ให้บริการหนังสือ แบ่งตามหมวดหมู่ เช่น ความรู้ทั่วไป ปรัชญา ศาสนา สังคมศาสตร์ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน และนวนิยาย มีหนังสือ 4,359 เล่ม ปัจจุบัน มีสมาชิก 1,453 คน มีผู้มาใช้บริการเฉลี่ย 50 คนต่อวัน, มุมให้บริการสำหรับผู้พิการ มีคอมพิวเตอร์สืบค้นข้อมูล หนังสือตัวอักษรเบรลล์ พื้นที่นั่งสำหรับผู้พิการ และสื่อการเรียน ผู้มาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่พิการจากศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเมืองหนองคาย, มุมเฉลิมพระเกียรติ จัดแสดงพระราชกรณียกิจ และพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีต่อจังหวัดหนองคาย รวมทั้งพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และหนังสือพระราชนิพนธ์ 72 เล่ม ซึ่งพระราชทานไว้ให้กับห้องสมุด, มุมของดีหนองคาย จัดแสดงผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อจาก 9 อำเภอ อาทิ เครื่องปั้นดินเผาโบราณอำเภอโพนพิสัย, การจักสานไม้ไผ่แปรรูปอำเภอเมือง, การทอผ้าพื้นเมืองอำเภอโพธิ์ตาก, การแปรรูปปลาอำเภอท่าบ่อ
ในการนี้ ทอดพระเนตรการแสดงขับร้องสรภัญญะชุด "เสียงจากอีสาน" มีเนื้อหาเกี่ยวกับการแสดงความจงรักภักดี ซึ่งเป็นการขับร้องหมอลำกลอนโบราณผสานกับเสียงแคนที่เป็นดนตรีอีสาน เป็นการแสดงศิลปะพื้นบ้านที่มีเอกลักษณ์ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าสืบทอดมาอย่างยาวนาน