18 เม.ย. 68 พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย สั่งการให้ พ.ต.อ.เทคนิค จันสี ผู้กำกับการ สภ.แม่สาย ขยายผลดำเนินการกับผู้ร่วมขบวนการ กรณีชุดสืบสวน สภ.แม่สาย จับกุมนายชัยวิวัฒน์ อายุ 32 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ พร้อมของกลางเคตามีนน้ำหนักรวม 110 กิโลกรัม โดยจับได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ริมถนนพหลโยธิน เขต ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 16 เม.ย.68 ตำรวจชุดสืบสวนร่วมกับชุดสนับสนุนการข่าวและสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน ของ สภ.แม่สาย สืบทราบว่า กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจะใช้รถเก๋ง เป็นพาหนะในการลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่ออกจากพื้นที่แม่สาย ไปส่งให้กับผู้ร่วมขบวนการในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ เจ้าหน้าที่จึงแกะรอยติดตามหาข่าว
กระทั่งเวลาประมาณ 21.20 น. ของวันที่ 17 เม.ย.68 เจ้าหน้าที่พบรถคันเป้าหมาย จอดอยู่หน้าห้องพักหมายเลข 307 ของโรงแรมสถานที่จับกุม และพบว่ามีผู้ชายยกสิ่งของออกจากท้ายรถเก๋งเข้าไปในห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงจู่โจมเข้าไปตรวจค้น พบกระสอบบรรจุยาเสพติดอยู่ภายในห้องน้ำของห้องพักดังกล่าวจำนวน 1 กระสอบ ข้างในเป็นยาเสพติดประเภทเคตามีน บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ใส่ไว้ในถุงพลาสติกสีเขียวอ่อนอีกชั้น แพ็กในกระสอบและห่อด้วยถุงดำพันด้วยเทปใส น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 36 กิโลกรัม จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหา ไปทำการตรวจค้นที่รถเก๋ง พบกระสอบลักษณะเดียวกันอยู่ในกระโปรงหลังด้านท้ายรถอีก 2 กระสอบ ข้างในเป็นเคตามีนน้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 74 กิโลกรัม รวมของกลางเคตามีนที่จับกุมได้มีน้ำหนักรวม 110 กิโลกรัม
สอบสวนผู้ต้องหาสารภาพว่า ได้รับว่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท จากชายไม่ทราบชื่อ ติดต่อกันทางโทรศัพท์ให้มารับยาเสพติดที่แม่สาย เพื่อนำยาเสพติดไปส่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเมื่อไปถึงจะมีคนโทรศัพท์มาแจ้ง ว่าจะให้ไปส่งยังที่หมายใดอีกครั้งหนึ่ง ส่วนค่าจ้างจะได้รับก็ต่อเมื่อได้ท-ภารกิจส่งยาเสพติดเสร็จสิ้นแล้ว
ทั้งนี้ จากการสอบสวนยังทราบว่า มีผู้ร่วมขบวนการซึ่งเดินทางมาที่แม่สายด้วยกันอีก 1 คน เจ้าหน้าที่จึงให้โทรศัพท์ติดต่อแต่โทรแล้วไม่มีผู้รับสาย คาดว่าน่าจะไหวตัวและหลบหนีไป นอกจานั้นเจ้าหน้าที่ยังได้ขยายผลไปที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อหลอกล่อให้มารับของกลางยาเสพติด แต่ติดต่อไม่ได้คาดว่าไหวตัวหลบหนีเช่นกัน
เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาว่า “มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันถือเป็นการจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” กับนายชัยวัฒน์ ส่วนผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบแล้วว่าเป็นใคร โดยจะได้รวบรวมหลักฐานพยานเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อไป