กลุ่มวัยรุ่งต่างหมู่บ้านบุกหน้าเวทีหมอลำงานบุญบั้งไฟ ตีวัยรุ่นเจ้าถิ่นยับ เจ็บหลายราย
(4 พ.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีเฟสบุ๊คที่ชื่อ น้องบอม ศิษย์เจ๊นาง ได้โฟสต์คลิปวีดีโอพร้อมข้อความว่า แบบนี้กะบ่ไหวเด้อ..ดีนะที่รถบ่เป็นหยัง มีทั้งคราบเลือด,เศษแก้วกระเด็นทั่วรถเลย(รอดมาได้จั่งได๋นิ)
โดยคลิปวีดีโอที่ลง เป็นภาพเหตุการณ์ วัยรุ่นตีกันอย่างรุนแรง ใช้ทั้งขวด เก้าอี้ ตีกันหน้าเวทีหมอลำซิ่ง ภายในงานบุญประเพณีบั้งไฟ ที่จัดขึ้นในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในอำเภอราศีไศล เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาเที่ยงคืนกว่าของวันที่ 4 พ.ค. 68
ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงวันของวันนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณวัดแห่งหนึ่ง ในอำเภอราศีไศล จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งบริเวณจัดงานที่อยู่ข้างโบสถ์ภายในวัด ใกล้จุดที่ตั้งเวทีหมอลำพบเศษขวด เศษแก้ว และเก้าอี้ สภาพหักพังเสียหายกองอยู่ใต้ต้นไม้ภายในวัด
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับผู้บาดเจ็บ คือ นาย กอ. นามสมมติ อายุ 32 ปี เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ปกติตนเองทำงานอยู่ต่างจังหวัด วันเกิดเหตุกลับมาบ้านเพื่อร่วมงานบุญประเพณีบั้งไฟประจำปีของหมู่บ้าน ตนเองได้ไปร่วมสนุกหมอลำซิ่งที่วัดตามปกติด โดยไม่คิดว่าจะมีเหตุทะเลาะวิวาท พอตกดึกประมาณเที่ยงคืนกว่า เห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุกอดคอหลานของตนเอาไว้ จึงวิ่งเข้าไปเพื่อที่จะไปดึงหลานออกมา จังหวะนั้นก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นทำให้ตนล้มลง และกลุ่มผู้ก่อเหตุก็มารุมตี โดยใช้ทั้งขวด ทั้งเก้าอี้ ทุบตี ทำให้ตนล้มลงไปกองในพื้นแล้วก็ไม่รู้สึกตัว
นาย กอ. นามสมมติ ผู้ได้รับบาดเจ็บ บอกอีกว่า ส่วนตัวตนกับกลุ่มผู้ก่อเหตุไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร อีกทั้งตนเองก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านเพราะไปทำงานที่ต่างจังหวัด นาน ๆ ถึงจะได้กลับมาบ้าน วันที่เกิดเหตุนอกจากตนแล้วยังมีคนถูกตีอีกจำนวนหนึ่ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่อุกอาจ ตนรู้สึกกลัวและกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากนี้ตนและผู้เสียหายคนอื่น ๆ จะรวมตัวกันไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุ
ด้าน พ.ต.อ.ณัฐกิตติ์ เจริญเกษสุวรรณ์ ผกก.สภ.ราษีไศล เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า เรื่องดังกล่าวตนได้รับรายงานแล้ว เบื้องต้นตอนนี้ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด ซึ่งตอนนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบถึงเรื่องราวดังกล่าวแล้ว และบอกให้กับผู้ใหญ่าบ้านได้ให้ไปแจ้งกับเสียหายจากเหตุการณ์นี้ไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
