เวลา 09.16 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต พระราชทานพระราชวโรกาสให้ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษางานโครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี กรมกิจกรรมพิเศษ สำนักพระราชวัง กราบบังคมทูลรายงานผลการดำเนินโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดา รถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 45 ปี เพื่อให้เด็ก และประชาชนในถิ่นทุรกันดารมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทรงใช้การพัฒนาแบบบูรณาการ ทั้งด้านการเกษตร อาหาร โภชนาการ สุขภาพอนามัย การศึกษา อาชีพ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งรักษาวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น ทรงใช้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา แล้วขยายไปสู่ชุมชน กลุ่มเป้าหมายครอบคลุมตั้งแต่ทารกในครรภ์ มารดา เด็กวัยเรียน เยาวชน และประชาชน ปัจจุบันมีสถานศึกษาในโครงการ 902 แห่ง ใน 52 จังหวัด และสถานศึกษาในต่างประเทศ 116 แห่ง ใน 10 ประเทศ โอกาสนี้ พระราชทานเข็มเชิดชูเกียรติ ชั้นที่ 1 แก่ผู้ปฏิบัติงานโครงการตามพระราชดำริ พระราชทานโล่รางวัลแก่ครูใหญ่และครูผู้สอนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนดีเด่น ประจำปีการศึกษา 2567 จำนวน 49 คน
ในการนี้ พลตำรวจโท นิตินัย หลังยาหน่าย ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน นำคณะผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบงานโครงการตามพระราชดำริ ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และคณะครูฯ พร้อมด้วยผู้ปฏิบัติงานและผู้สนับสนุนโครงการตามพระราชดำริ เฝ้าทูลละอองพระบาท ในโอกาสที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนจัดประชุมสัมมนาครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ประจำปี 2568 ครั้งที่ 44 ระหว่างวันที่ 3-4 พฤษภาคม 2568 พร้อมกันนี้ พระราชทานเมล็ดพันธุ์ผัก สำหรับโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน แก่ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน, พระราชทานโล่รางวัลแก่ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนดีเด่น ประจำปีการศึกษา 2567 จำนวน 4 นาย และครูผู้สอนฯ 4 นาย กับพระราชทานพระราชวโรกาสให้ นักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ ร่วมเฝ้าทูลละอองพระบาท กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาท
เวลา 11.15 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังทำเนียบเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เสวยพระกระยาหารกลางวัน ซึ่งนายฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทยจัดถวาย ในโอกาสที่คณะกรรมการชมรมสมาคมเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ทรงรับเชิญเป็นองค์ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของสมาคม
ทั้งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นชาวไทยพระองค์เดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ และได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์ของฝรั่งเศสสูงที่สุดในชั้นตรา Grand Officier de la Légion d’honneur ซึ่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฝรั่งเศส เครื่องราชอิสริยาภรณ์ Légion d’honneur ริเริ่มโดยจักรพรรดินโปเลียน เมื่อ 200 กว่าปีมาแล้ว และเป็นอิสริยาภรณ์ตระกูลที่สูงที่สุดของฝรั่งเศส มอบให้เฉพาะผู้ทำคุณประโยชน์อย่างมากให้สาธารณรัฐฝรั่งเศสเท่านั้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง และสอดคล้องกับโอกาสที่ประเทศไทยและประเทศฝรั่งเศส ฉลองความสัมพันธ์ครั้งแรกระหว่างกัน 340 ปี ในปี 2568 นี้ และความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 170 ปี ในปี 2569