ดำเนินคดีได้ เอเยนต์ยาเสพติด ป่วยจิตเวช

View icon 111
วันที่ 18 พ.ค. 2568 | 16.31 น.
เจาะประเด็นข่าว 7HD
แชร์
เจาะประเด็นข่าว 7HD - เหตุระทึกขวัญที่ตำรวจสายตรวจ สน.สายไหม ไล่ล่ายิงสกัดรถกระบะต้องสงสัย พยายามหลบหนีชนรถตำรวจ และชาวบ้านเสียหายไป 4 คัน เมื่อวานมีประเด็นขึ้นมาอีก หลังญาติเข้าเยี่ยมแล้วบอกว่าผู้ต้องหามีอาการป่วยจิตเวช

นายชัยชนะ อายุ 41 ปี ขับรถกระบะพยายามจะหลบหนีไปทางถนนเทพรักษ์ ขาเข้า มุ่งหน้าแยกบิ๊กซี สะพานใหม่ เขตสายไหม กรุงเทพฯ เพราะกลัวว่าจะถูกตำรวจจับได้ว่ามีคีตามีน 400 กรัม อยู่ภายในรถอย่างเดียว เพราะที่น้องสาวและทนายความไปเยี่ยมผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.บางเขน นอกจากนำอาหารไปให้แล้ว ยังนำยารักษาอาการป่วยจิตเวชไปให้ด้วย

สอบถามเรื่องการดำเนินคดีกับผู้กำกับการ สน.สายไหม บอกว่า ผู้ต้องหายอมรับว่า เคตามีนที่เจอเป็นของตัวเอง และตัวเองก็เป็นเอเยนต์ขายเคตามีนให้กับลูกค้าที่ชอบจัดปาร์ตี

เรื่องการดำเนินคดีต้องแยกเป็น 2 พื้นที่ เริ่มจากที่ นายชัยชนะ ซึ่งตอนนั้นอยู่ในท้องที่ สน.สายไหม แล้วขับรถหนีไปเฉี่ยวชนรถของผู้เสียหายหลายคันในท้องที่ สน.บางเขน ก่อนจะถูกจับกุมตัวได้ ดังนั้น ผู้ต้องหาจึงไปอยู่ที่ สน.บางเขน ดำเนินคดีฐานขับรถประมาทหวาดเสียว และทำให้เสียทรัพย์ จากการขับรถหนีเฉี่ยวชนรถชาวบ้านไป 3 คัน รวมถึงเรื่องการครอบครองเคตามีนด้วย โดยพนักงานสอบสวนจะคุมตัวไปขออำนาจศาลฯ ฝากขังพรุ่งนี้

มีรายงานว่า แรกเริ่มผู้ต้องได้ขับรถไปเฉี่ยวชนรถคู่กรณีคันหนึ่ง ระหว่างการเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย มีตำรวจสายตรวจ สน.สายไหม เข้าไปสอบถามให้ความช่วยเหลือ แต่ผู้ต้องหาร้อนตัว เพราะในรถมี "เคตามีน" อยู่ จึงขับรถหลบหนี ขณะที่ผู้ต้องหาก็ยังให้การวกวนเหมือนมีอาการเมา แถมยังขอเคตามีนจากตำรวจสิบเวรห้องควบคุมไปเสพด้วย

มาถึงคำถามสำคัญ ผู้ต้องหามีอาการป่วยจิตเวช แบบนี้ดำเนินคดีได้หรือไม่ ทบทวนความรู้เดิม ตำรวจบอกว่าต้องดูว่าผู้ต้องหาขณะก่อเหตุมีสติสัมปชัญญะ แยกย้ายถูกผิดได้หรือไม่ ซึ่งแนวทางการพิจารณาก็จะมีระดับอยู่ตั้งแต่รู้ตัวดี ไปจนถึงไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป

ซึ่งการจะแยกแยะได้ไม่ใช่ว่าตำรวจทำเองได้เลย ต้องดูก่อนว่าผู้ต้องหานั้นมีประวัติอาการป่วยทางจิตเวชหรือเปล่า แล้วส่งไปตรวจสอบที่โรงพยาบาล เอาความเห็นของแพทย์มาประกอบการพิจารณาอีกที ระหว่างนี้ตำรวจก็จะดำเนินคดีไปตามปกติก่อน