ความพยายามของนักค้า ไอเดียเจาะช่องลับบนหลังคารถ SUV ขับข้ามไปรับไอซ์-คีตามีน 100 กิโลกรัม ที่ฝั่งท่าขี้เหล็ก ตีเนียน ขับข้ามสะพานพรมแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก เข้าไทย สุดท้ายไม่รอด ตชด.327 สกัดจับ
พ.ต.ต.อนัญวัฒน์ รัตนวิชัย ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 327 ได้รับรายงานว่า กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจะใช้รถยนต์นั่งเอนกประสงค์ ทำการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย ผ่านช่องทางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 (แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก) จึงมอบหมายให้ ร.ต.อ.สมชาย สร้อยแสง และ ร.ต.อ.ปริณ วรโชคคุณากรณ์ ไปร่วมกันวางแผนสกัดกั้นและจับกุม โดยได้นำกำลังไปสังเกตการณ์และค้นหารถยนต์เป้าหมาย ที่จะข้ามมาจากฝั่งท่าขี้เหล็กที่บริเวณด่านพรมแดน
กระทั่งเวลาประมาณ 15.15 น. วานนี้ (20 พ.คซ68) เจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์เอนกประสงค์สีดำ ติดป้ายทะเบียน จ.เชียงราย ตรงตามที่ได้รับแจ้ง ขับมาจากท่าขี้เหล็กข้ามสะพานพรมแดนเข้ามายังฝั่งแม่สาย จึงติดตามไปจนถึงบริเวณสามแยกถนนเหมืองแดง ซึ่งห่างจากด่านพรมแดนประมาณ 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้แสดงตนเรียกรถคันดังกล่าวให้หยุด และให้ขับไปยังที่ทำการชุดปฏิบัติการตำรวจตระเวนชายแดนแม่สาย เพื่อทำการตรวจค้นอย่างละเอียด จึงพบถุงชาสีเหลืองทองจำนวน 60 ห่อ และถุงชาสีเขียวจำนวน 40 ห่อ ซุกซ่อนอยู่ในช่องลับซึ่งทำไว้บริเวณหลังคาของรถคันดังกล่าว
ต่อมา นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย พร้อมด้วยทหารกองกำลังผาเมือง ปปส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ไปร่วมกับตำรวจตระเวณชายแดน ทำการตรวจพิสูจน์ผงสีขาวที่บรรจุในถุงชาสีเหลืองทอง พบว่าเป็นไอซ์น้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม ส่วนผงสีขาวที่บรรจุในถุงชาสีเขียวพบว่าเป็นคีตามีนน้ำหนักประมาณ 40 กิโลกรัม
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว นายสุพจน์ อายุ 53 ปี ชาว ต.ห้วยจรเข้ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ซึ่งเป็นคนชับรถคันดังกล่าวไว้ทำการสอบสวน ซึ่งนายสุพจน์สารภาพว่าจะส่งไอซ์และคีตามีนทั้งหมด ไปให้กับผู้ร่วมขบวนการในพื้นที่กรุงเทพฯหรือปริมณฑล ซึ่งจะมีการติดต่อกันเพื่อกำหนดจุดส่งมอบอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนั้นจากการสอบสวนยังทราบว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีก 1 คน ซึ่งทำหน้าที่ติดต่อประสานงานในพื้นที่แม่สายและท่าขี้เหล็ก เพื่อจัดหายาเสพติดของกลางและรถที่จะใช้ลำเลียง เจ้าหน้าที่จึงขยายผลไปจับกุม นายบุญปั๋น อายุ 49 ปี ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ได้ที่บ้านหลังหนึ่งภายในซอยร่มโพธิ์ หมู่ 13 ต.แม่สาย และยังจะได้สืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆ มาดำเนินคดีต่อไป
