สน.ดอนเมือง บุกจับกุมพระนักพัฒนา ที่วัดดังแห่งหนึ่ง ย่านดอนเมือง บวชนานกว่า 30 พรรษา แต่มีพฤติกรรมชักชวนคนรู้จัก และเด็กวัด มามั่วสุมเสพยาในกุฏิ พบหลักฐานถ่ายภาพเปลือยอวดในโซเชียล
วันที่ 24 พ.ค. พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.ดอนเมือง สั่งการให้ พ.ต.ท.อำนาจ ฉ่ำชะเอม รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง พ.ต.ต.ชยพัทธ์ หีบทอง สว.สส.สน.ดอนเมือง จับกุมนายชัยฤกษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี และนายพิชัยบัญชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี พร้อมของกลางอุปกรณ์การเสพ โดยจับกุมได้ที่หน้ากุฎิ วัดชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านดอนเมือง กทม.
สืบเนื่องจาก ตำรวจได้รับหนังสือร้องเรียนจากประชาชน ว่ามีพระรูปหนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด มักจะชักชวนบุคคลอื่น รวมถึงเด็กวัดมาเสพยาในกุฏิ จนกลายเป็นแหล่งมั่วสุม ตำรวจ สน.ดอนเมือง จึงนำกำลังฝ่ายสืบสวนเข้าไปตรวจสอบเฝ้าสังเกต พบพระรูปหนึ่งยืนอยู่กับชายอีกคน ซึ่งน่าจะเป็นลูกศิษย์ ทราบชื่อคือพระชัยฤกษ์ และนายพิชัยบัญชา เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจสอบ และตรวจค้นที่ตัว ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่จากการตรวจสอบในกุฎิ พบอุปกรณ์การเสพ และถุงซิปมีคราบยาเสพติดติดอยู่ สอบถามพระชัยฤกษ์ ให้การยอมรับว่าได้เสพไอซ์ไปตั้งแต่เมื่อคืน ตำรวจจึงเชิญตัวพระชัยฤกษ์ และนายพิชัยบัญชา มาที่สน.ดอนเมือง เพื่อตรวจสารเสพติด เบื้องต้นพบสารเสพติดในร่างกายทั้ง 2 คน จึงได้ส่งปัสสาวะไปตรวจยืนยันผลที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี รพ.ธัญญารักษ์ พบว่ามีสารเสพติดในร่างกายจริง
เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวพระชัยฤกษ์ ไปดำเนินการสึกจากการเป็นพระ และทำบันทึกการยินยอมการสึกโดยสมัครใจที่วัดเวฬุวนาราม ( วัดไผ่เขียว ) โดยมีเจ้าอาวาสวัดเวฬุวนาราม ( วัดไผ่เขียว ) รองเจ้าคณะแขวงสีกัน เป็นผู้ทำการสึก ก่อนจะนำตัวกลับมาดำเนินคดีในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ส่งพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง ดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ทางผู้ร้องเรียน ยังระบุด้วยว่า นายชัยฤกษ์ หรือ อดีตพระชัยฤกษ์ ยังมีพฤติกรรมในการโพสภาพถ่ายเปลือยของตนเองขณะเป็นพระลงในกลุ่มในโซเชียล ซึ่งจากการเปรียบเทียบสถานที่กับภาพถ่ายพบว่าพนังห้อง และที่นอนในกุฎิของอดีตพระชัยฤกษ์ เป็นสถานที่เดียวกับที่ผู้ร้องเรียนส่งมาให้ ซึ่งทางอดีตพระชัยฤกษ์ ไม่ปฏิเสธว่าใช่รูปตัวเองหรือไม่ แต่ระบุเพียงว่าไม่ได้เข้ากลุ่มโซเขียลดังกล่าวนานแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวระบุว่า อดีตพระชัยฤกษ์ บวชเป็นพระมาประมาณ 30 พรรษา มีหน้าที่คอยดูแลเรื่องต่าง ๆ ภายในวัด โฆษกวัดและหัวเรือใหญ่ในการจัดงานต่าง ๆ ในวัด หรือแม้แต่การร่วมกิจกรรมต่าง ๆ กับวัดข้างเคียง จึงถือว่าเป็นพระนักพัฒนา รูปหนึ่งที่มีลูกศิษย์ลูกหาทั้งในพื้นที่และต่างพื้นที่ นับหน้าถือตาเป็นจำนวนมาก