ผู้เสียหายเดินหน้าเอาผิด สส.คนดังเมืองคอนยกพวกรุมกระทืบ

เปิดรายงาน ตร. ยืนยันมีผู้เสียหาย แจ้งความ ถูก สส.คนดังนครศรีธรรมราช กับน้องชาย สจ. และพวก 10 คน รุมทำร้ายในงานบวช ก่อนถอนแจ้งความ ล่าสุด ทนายความ ยืนยัน ผู้เสียหายเดินหน้าเอาเรื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีการเปิดเผยข้อมูลว่า มี สส. คนดังจังหวัดนครศรีธรรมราช กับลูกน้อง ทำร้ายร่างกายนักธุรกิจก่อสร้างในอำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช และยังใช้อิทธิพลข่มขู่ กดดันผู้เสียหาย ไม่ให้แจ้งความดำเนินคดี

ล่าสุด วันนี้ ( 31 พ.ค.68 ) มีหนังสือรายงานเหตุอุฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ และเหตุที่ต้องรายงานด่วน ของตำรวจ สภ.ร่อนพิบูลย์ ลงวันที่ 30 พฤษภาคม รายงานถึง พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ นายตำรวจระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยรายงานเหตุที่น่าสนใจ ได้รับคำร้องทุกข์หรือกล่าวโทษไว้ตามคดีอาญาที่ - หรือประจำวันข้อ 1 เวลา 09.08 น. วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 เหตุเกิดวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 23.30 น. ภายในงานบวชบ้านควนพัง หมู่ที่ 3 ตำบลร่อนพิบูลย์ อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ได้รับบาดเจ็บ คือนายนเรศ อายุ 40 ปี ส่วน ผู้ก่อเหตุ คือ นาย ชัยชนะ , นาย พิชิตชัย 

ซึ่งนายนเรศ ให้การว่า ถูกนายชัยชนะ ซึ่ง สส. และนายพิชิตชัย สจ. พร้อมพวกประมาณ 10 คน ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ชกต่อย และใช้ของแข็งตีที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บ โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครินทร์ ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.ร่อนพิบูลย์ รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว และรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ หลังจากนั้นผู้กับการ สภ.ร่อนพิบูลย์ มีคำสั่งแต่งตั้งชุดสืบสวนสอบสวน สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจสายตรวจ ตำบลควนพัง ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลผู้ต้องหาร่วมในคดี แต่หลังจากนั้น เวลา 17.11 น. วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ผู้เสียหายมีความประสงค์ขอถอนคำร้องทุกข์ อ้างว่าเป็นการเข้าใจผิด ไม่ประสงค์ดำเนินคดีกับผู้ใดต่อไป อีกทั้งไม่สะดวกให้ปากคำ เนื่องจากมีอาการเจ็บปวดบาดแผล พนักงานสอบสวน ได้สอบสวนปากคำ นายไชยเชษฐ์ พลสวัสดิ์ นายก อบต.ควนพัง ซึ่งเป็นผู้จัดงานบวช พร้อมพยานอื่น ๆ รวม 4 ปาก กระทั่งเมื่อ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จะปรากฏข่าวทางสื่อโซเชียล

ทั้งนี้ หนังสือรายงานฉบับดังกล่าว เป็นการรายงานเหตุที่เกิดเหตุขึ้นในพื้นที่เท่านั้น ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่า ในหนังสือฉบับนี้ ไม่มีการลงเลขรับคดีของพนักงานสอบสวน จึงเป็นช่องทางให้มีการเจรจราไกล่เกลี่ยระหว่าง กลุ่มผู้ก่อเหตุกับกลุ่มผู้เสียหาย ก่อนที่จะมีการถอนแจ้งความในภายหลัง เนื่องจากผู้เสียหายถูกกดดันอย่างหนัก

ทั้งนี้นาย เชาว์ มีขวด ทนายความชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางเข้าพบพูดคุยกับผู้เสียหายแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ