สงครามการสื่อสาร ไทย-กัมพูชา

View icon 158
วันที่ 16 มิ.ย. 2568 | 11.03 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - สงครามแห่งการสื่อสาร รัฐบาลไทยต้องแก้เกม โดยกัมพูชาออกมาแถลงทันที หลังประชุม JBC เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา บอกว่า ในการประชุมครั้งนี้ ไทยยอมใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ทั้งที่จริง ไทยไม่ยอม

การประชุม JBC เพื่อหารือแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกในรอบ 13 ปี ทีแรกเหมือนจะราบรื่น แต่กลับกลายเป็นสงครามการสื่อสาร

เรื่องนี้ หลังไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ซึ่งย้ำ ถึงความสำคัญและประสิทธิภาพของ กลไก JBC ทำให้เห็นถึงคืบหน้า ในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างกัน และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน

แม้ผลการประชุมจะออกมา เป็นที่น่าพอใจ แต่มีรายงานว่า ในระหว่างการประชุม กัมพูชาพยายาม นำประเด็นข้อพิพาท 4 จุด ที่ไปฟ้องศาลโลก เข้าหารือ เพื่อให้บันทึกไว้ในบันทึกการประชุมครั้งนี้ แต่ฝ่ายไทยคัดค้าน

ฝ่ายกัมพูชา โดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดน และประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา ประกาศกลางวงประชุมว่า ขอให้ฝ่ายไทยร่วมมือ ในการนำข้อพิพาท 3 ปราสาท 1 พื้นที่ เข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก และยืนยันว่ากัมพูชา จะเริ่มดำเนินตามกฎหมายอย่างอิสระ แม้ฝ่ายไทยจะปฏิเสธเขตอำนาจศาลโลกก็ตาม โดยจะไม่นำเรื่องนี้มาหารือภายใต้กลไก JBC อีก 

โดยกัมพูชาจะไม่ยอมรับแผนที่ของฝ่ายไทย ได้ทำขึ้นฝ่ายเดียว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของข้อพิพาทเรื่องพรมแดน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

การสื่อสารของกัมพูชา กระจายไปทั่วโลก ไม่ใช่แค่คนไทยที่ผิดหวัง แต่ทั่วโลกก็จับตาปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

แต่กระทรวงการต่างประเทศ กลับเงียบกริบ ปล่อยให้ฝ่ายกัมพูชา ครองหน้าสื่อฯ แถลงท่าทีอยู่ฝ่ายเดียว ราวกับว่า ฝ่ายไทย ยินยอม กลับไปใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000

กระทั่ง กลางดึกที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าว ย้ำว่า ไม่ได้เอาแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ขึ้นโต๊ะเจรจาตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง และยอมรับว่าผิดหวัง ที่กัมพูชาออกมาแถลงข่าวเช่นนั้น สะท้อน ให้เห็นว่า ฝ่ายกัมพูชาขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคีต่าง ๆ และขาดความจริงใจ ที่มีอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของเพื่อนบ้านที่ดี

โดยเลือกปิดประตูการเจรจาอย่างสันติ เดินหน้านำเรื่องพื้นที่ 4 จุด ก็คือ พื้นที่ช่องบก ปราสามตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย ไปสู่ศาลโลก หรือ ICJ ซึ่งสะท้อน ให้เห็นว่า ฝ่ายกัมพูชา ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคีต่าง ๆ และขาดความจริงใจ ที่มีอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของเพื่อนบ้านที่ดี

สงครามแห่งการสื่อสาร ทีมข่าวสอบถามไปยัง อาจารย์ ยุคลวัชร์ ภักดีจักริวุฒิ์ สาขานวัตกรรมการสื่อสาร วิทยาลัยนวัตกรรมสื้อสารสังคม มศว กล่าวว่า กัมพูชาช่วงชิงพื้นที่ในการสื่อสาร ซึ่งในทางนิเทศศาสตร์ ใครพูดก่อนมักจะได้เปรียบเสมอ แต่การพูดก่อนของกัมพูชา กลับทำให้สถานการณ์ตึงเครียดกว่าเดิม การแก้เกมจากนี้ รัฐบาลไทยต้องไม่ช้า มีชื่อทางติดต่อสื่อสารที่ไวต่อประชาชน เพื่อช่วงชิงหน้าสื่อกลับมาให้ได้

อย่างไรก็ตาม หากเรายังล่าช้า ข้อมูลเท็จจะกระจายไปทั่วโลก ดังนั้น ไทยต้องมีตัวหลักในการสื่อสาร ซึ่งจะเป็นใครก็ได้ แต่ขอให้ทำทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง