คนร้ายควงปืนจี้พนักงานร้านทองกลางห้างฯ ได้ทองรูปพรรณกว่า 38 บาท ตำรวจนอกเครื่องแบบเจอเหตุการณ์ไล่จับ เจอคนร้ายยิงใส่ 1 นัด โชคดีหลบทัน โดนหมวกกันน็อก แต่แย่งปืนเอาไว้ได้ ก่อนจะวิ่งหลบหนีไปได้
วันนี้ (26 มิ.ย.68) เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ก่อเหตุ เป็นชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมส์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว เข้ามาทำทีซื้อทองภายในร้านทอง ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ก่อนคนร้ายจะใช้อาวุธปืนจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาทจำนวนสองเส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้างฯ ไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งไล่คนร้าย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ จึงจะเข้าไปจับกุมแต่ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ แต่สามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้
ร้อยตำรวจโทอร่าม โชติษิตานนท์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ. เมืองชลบุรีได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้บังคับพนักงาน ให้หยิบทอง ไปทั้งหมดสี่เส้น รวม 38 บาท หลังรับแจ้งจึงได้รีบนำกำลังพร้อมสายตรวจและชุดสืบสวนไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามนางสาวกลอย พนักงานร้านทอง ได้เปิดเผยว่า ตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิด มีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จากนั้นจึงได้บอกให้ถอดหมวกและแมสก์เพื่อที่จะได้ให้บริการ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำ ผู้ก่อเหตุได้ควักอาวุธปืนออกมาพร้อมกับจี้พนักงานแล้วบอกให้เอาทองรูปพรรณรวมน้ำหนักรวม 38 บาท จากนั้นคนร้ายก็ได้เอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ ตนก็ได้ร้องให้คนช่วยเหลือแต่ก็ไม่ทันคนร้ายได้วิ่งออกไปจากห้างฯ แล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดที่คนร้ายถูกตำรวจนอกเครื่องแบบบุกชาร์จตัวและแย่งอาวุธปืนได้ ซึ่งอยู่ข้างห้างสรรพสินค้าดังกล่าว ในที่เกิดเหตุได้พบกับดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.สส.ภ.2
ซึ่งมาทำธุระในชุดนอกเครื่องแบบได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย จากการตรวจสอบหมวกกันน็อกที่อยู่ภายในรถจักรยานยนต์พบมีร่องรอยของรูกระสุนจำนวน 1 รู
ด.ต.สมปอง ได้เปิดเผยว่า ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์มาทำธุระและผ่านมาที่เกิดเหตุพบเห็นคนร้ายวิ่งผ่านมาและมีคนวิ่งตามตนก็คิดว่าเป็นการลักทรัพย์ปกติเพียงเล็กน้อย จึงได้กระโดดขวางและจะเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ แต่จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุได้ยิงเพื่อเปิดทาง 1 นัด ตนจึงได้ก้มหลบทำให้โดนหมวกกันน็อกจนเป็นรู พอได้จังหวะก็รีบวิ่งเข้าไปชาร์จตัวผู้ก่อเหตุมีการยื้อแย่งอาวุธปืน จนสำเร็จ ผู้ก่อเหตุจึงได้รีบลุกขึ้นและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งอาวุธปืนเอาไว้เป็นหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อจะได้หาเบาะแสและร่องรอยของผู้ก่อเหตุเพื่อจะได้ติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
