จากกรณีเจ้าอาวาสวัดโรงบ่ม จ้างรถแบ็กโฮมารื้อถอนโรงเจ-โรงบ่มนาเฉียง ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณของวัดโรงบ่ม ในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.ยางงาม อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
โดยขณะรื้อถอนอิฐ หลังคาร่วงใส่ด้านหลังของนางกุล ผู้ที่มาปฏิบัติธรรม ได้รับบาดเจ็บ
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (3 ก.ค. 68) นางกุล ผู้มาปฏิบัติธรรมที่บาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่บ้าน ยังเดินไม่ค่อยสะดวก เพราะเจ็บหลังและขา และปวดตามตัว ซึ่งหากอาการดีขึ้น จะเดินทางไปแจ้งความ เพื่อให้ทางวัดโรงบ่ม รับผิดชอบ ที่จ้างรถแบกโฮมารื้อกุฏิที่พัก จนทำให้เศษหลังคาหล่นมาใส่ตนเอง
ต่อมาพระอาจารย์นุช สุมโน เจ้าอาวาสวัดโรงบ่ม เพื่อให้ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยได้นำหมายศาลบังคับคดี ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 มายืนยันสิทธิ์รื้อถอน โดยมีเนื้อหา ระบุชัดเจนว่า “ทรัพย์สินหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใดที่จำเลยทั้งสองได้ปลูกสร้างไว้ในที่ดินพิพาท จำเลยทั้งสองยกถวาย ให้แก่โจทก์ และตกเป็นของโจทก์แล้ว ไม่ใช่ทรัพย์สินของจำเลยทั้งสอง” นั่นก็หมายความว่า ทางวัดมีสิทธิ์รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของโรงเจได้
โดยพระอาจารย์นุช กล่าวว่า ที่ให้รถแบ็กโฮไปรื้อถอนโรงเจ ทางวัดมีหนังสื่อจากศาลยืนว่า ทางโรงเจได้ยกสิ่งปลูกสร้างให้กับทางวัดแล้ว ทางวัดจึงจะทำการรื้อโรงเจ เพื่อสร้างโบสถ์และกำแพงวัด แต่มีนักบุญมาขวาง จึงทำให้เศษวัสดุร่วงหล่นใส่
ส่วนที่ว่าทางโรงเจ อ้างว่ามีเอกสารว่าห้ามรื้อถอนนั้นก็เรื่องของเขา ของเรามีเอกสารจากศาลมีคำสั่งศาลมายืนยัน
จากการสอบถามชาวบ้าน นางสาวโสภา อายุ 54 ปี เล่าว่า ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากการที่โรงเจ จัดงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแจกรถปี 60 ก็ไม่จริง และล่าสุดมีประเด็นเรื่องค้างจ่ายค่าช้าง จาก จ.สุรินทร์ อีกทั่งช้างยังเข้าไปบุกพื้นที่ชาวบ้าน จนเสียหาย
ด้านนางบุษบา อายุ 54 ปี ผู้ก่อตั้งโรงเจ โรงบ่มนาเฉลียง บอกว่า ตนสร้างโรงเจ มา 20 ปี ผูกพันรักเหมือนบ้านของตนเอง เรื่องที่วัดนำรถแบ็กโฮมารื้อถอนเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะทางตนเองก็มีเอกสารจากศาลว่าห้ามรื้อถอน วัดไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้ ซึ่งเอกสารอยู่ที่ทนายความ เปิดเผยไม่ได้ และหลังจากนี้ตนจะขอสู้ต่อไม่ย้ายออก
