ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.นิพันธ์ อำพันดี พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิษณุ ทัศญาณ รอง สว.ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล ได้ร่วมกันจับกุม นายทวีศักดิ์ อายุ 40 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต, ขับรถขณะเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต, ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น, ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ หรือมีแต่ใบขับขี่หมดอายุ, ใช้รถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และขาดต่อภาษีรถยนต์”
โดยสามารถจับกุมได้ที่ ริมถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 21 หลักกิโลเมตรที่ 21+500 ต.ดีลัง อ.พัฒนาคม จ.ลพบุรี ต่อเนื่อง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยของกลาง 1.เอกสารรายงานผลตรวจยืนยันสารเสพติด โรงพยาบาลพัฒนานิคม (แผนเทคนิคการแพทย์) จำนวน 1 ชุด รถยนต์กระ สีขาว จำนวน 1 คัน และยาบ้า 3 เม็ด เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 ก.ค. 68 ที่ผ่านมา
การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงลพบุรีออกตรวจพื้นที่ ได้พบรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับอยู่บริเวณถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ลักษณะมีพิรุธ และขับขี่ด้วยความเร็ว จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ พบ นายทวีศักดิ์ เป็นคนขับ จึงขอให้แสดงใบอนุญาตขับรถ พบว่าสิ้นอายุไปแล้วเมื่อ 29 เม.ย. 65 และในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบถามนายทวีศักดิ์อยู่นั้น ได้สังเกตเห็นมีอาการตกใจ ตัวสั่น คล้ายคนเสพสารเสพติดมา จึงได้สอบถาม ก่อนจะรับว่าเสพยาบ้ามา 3 เม็ด
จากนั้นจึงได้ขอทำการตรวจค้นตัว และตรวจค้นภายในรถยนต์ ขณะทำเข้าการตรวจค้นอยู่นั้น นายทวีศักดิ์ได้นั่งเบาะคนขับเพื่อดูการตรวจค้นของเจ้าพนักงานตำรวจ และได้อาศัยจังหวะเร่งเครื่องยนต์รถออกตัวหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เร่งติดตามไปในเส้นทางมุ่งหน้า อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ระหว่างทางบริเวณแยกไฟแดงช่องสาริกา นายทวีศักดิ์ได้โยนสิ่งของบางอย่างออกนอกตัวรถทางฝั่งข้างคนนั่งขับ ตรวจสอบภายหลังพบว่าเป็นยาบ้า จำนวน 6 เม็ด โดยนายทวีศักดิ์ได้ขับรถมุ่งหน้าไปยัง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งขับขี่ด้วยความเร็ว ประมาทหวาดเสียว เปลี่ยนเลนปาดหน้ารถคันอื่นอย่างกะทันหัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ยุทธวิธีหยุดสกัดที่ยางรถคันดังกล่าวเพื่อให้หยุดรถ แต่นายทวีศักดิ์ยังคงขับขี่วนไปตามหมู่บ้านด้วยความเร็วหลายรอบ รวมระยะทางมากกว่า 50 กิโลเมตร จนต่อมาพบว่านายทวีศักดิ์ได้นำรถเข้าไปแอบจอดอยู่ที่บ้านของน้าชายใน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเข้าตรวจสอบที่บ้านดังกล่าว พบรถกระบะคันต้องสงสัยจอดอยู่ในโรงจอดรถ ส่วนนายทวีศักดิ์วิ่งไปหลบอยู่ในบริเวณบ้าน จึงได้รีบเข้าไปจับกุมตัว
จากการสอบถามนายทวีศักดิ์ถึงสาเหตุที่หลบหนีการจับกุม บอกว่า ตนมียาบ้า ซุกซ่อนอยู่ภายในรถ และได้โยนทิ้งไปขณะที่ขับรถหลบหนีการจับกุม เพราะกลัวที่จะถูกเพิ่มโทษในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเคยถูกดำเนินคดีจนได้รับโทษจำคุกมาแล้ว และครั้งนี้พบผลการตรวจสอบปัสสาวะเป็นผลบวก จึงจับกุมตัว พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.พัฒนานิคม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
