อุทยานฯ ทับลาน สกัดช้างป่า 4 โขลง ออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์

อุทยานฯ ทับลาน สกัดช้างป่า 4 โขลง ออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์

View icon 299
วันที่ 6 ก.ค. 2568 | 19.10 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
อุทยานฯ ทับลาน ผนึกกำลังอาสา-เทคโนโลยี  สกัดช้างป่า 4 โขลง ประมาณ 70 ตัว ออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ยืนยันดำเนินการทุกวิธีเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินชาวบ้าน

วันนี้ (6 ก.ค.68) นายยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) เปิดเผยถึงสถานการณ์ช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ สร้างความเสียหายแก่พืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่ ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ทั้งนี้นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้รายงานว่าตั้งแต่วันที่ 1 - 5 ก.ค.68 มีช้างป่าสร้างความเสียหายในพื้นที่บ้านท่าสะตือ หมู่ที่ 2, บ้านวังอ้ายป่อง หมู่ที่ 3, และบ้านบุเจริญ หมู่ที่ 9 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

พืชผลทางการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ มันสำปะหลังรวม 5 งาน ปาล์มน้ำมัน 10 ต้น, ต้นยูคาลิปตัส 5 ต้น ต้นมะม่วงหิมพานต์ 2 ต้น และไผ่ 10 กอ โดยมีผู้ได้รับความเสียหายเบื้องต้น 3 ราย จากการสำรวจพบช้างป่าลงมาในพื้นที่ชุมชน 4 โขลง แยกกัน โดยแต่ละโขลงมีช้างประมาณ 20-40 ตัว มีทั้งช้างตัวเต็มวัยและลูกช้าง ซึ่งแม้จะมีรายงานการพบช้างมากกว่า 100 ตัว ในบางช่วงเวลา แต่คาดว่าจำนวนช้างป่าในพื้นที่ อ.นาดี มีอยู่ประมาณ 70 ตัว

ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติทับลาน ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้จัดตั้ง ชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อผลักดันช้างป่า ใน ต.แก่งดินสอ ร่วมกับเครือข่ายเฝ้าระวังช้างป่าบ้านวังอ้ายป่อง เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ทล.20 (ห้วยคำภู) เครือข่าย NWA และจิตอาสา ต.แก่งดินสอ เข้าปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคจากฝนตกหนัก ซึ่งส่งผลให้การจัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่และการใช้โดรนตรวจจับอุณหภูมิเป็นไปได้ยาก โดยอุทยานแห่งชาติทับลานได้ประสานงานกับนายอำเภอนาดี เพื่อเร่งนัดหมายผู้นำชุมชนและฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อร่วมกันวางแผนและหารือแนวทางแก้ไขปัญหานี้โดยด่วน และพร้อมที่จะสนับสนุนแนวทางการช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่

นายยศวัฒน์ ยืนยันว่า จะไม่ทอดทิ้งประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาระยะยาวอย่างรอบด้าน เพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย ที่ผ่านมา กรมอุทยานฯ ได้มีการเพิ่มอาสาสมัคร และนำเทคโนโลยีมาใช้ โดยมีการบินโดรนตามแนวป่าที่ติดกับแนวพื้นที่ประชาชน เพื่อให้รู้การเคลื่อนไหวของช้างป่าว่ามีการออกมาจากป่าวันไหน ชุดปฏิบัติการและชุดอาสาจะเข้าไปผลักดันช้างได้ทันท่วงที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง