แถลงการณ์ วัดชูจิตธรรมาราม “พระเทพพัชราภรณ์” ขอลาสิกขา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และสะท้อนถึงภาวะผู้นำทางธรรม ที่ให้ความสำคัญกับหลักธรรมวินัย ความสงบสุขของคณะสงฆ์ และศรัทธาของญาติโยม พร้อมเปิดทางให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างโปร่งใส
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กราบเรียนต่อ พระราชวชิรสารสุธีเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยยื่น หนังสือแสดงเจตจำนงขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง และขอลาสิกขา เพื่อเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบของภาครัฐดำเนินไปอย่างสมบูรณ์ โปร่งใสและเป็นธรรม โดยในหนังสือระบุว่า
"ตามที่มหาเถรสมาคมได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 20/2555 เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2555 แต่งตั้งให้กระผมดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง ตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2555 เป็นต้นมากระผมตระหนักในหน้าที่ และดำรงตนภายใต้พระธรรมวินัยอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งแต่ด้วยสถานการณ์ข่าวลือในขณะนี้ ที่อาจกระทบต่อภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนา และเพื่อให้ประชาชนเกิดความคลางแคลงใจหรือเข้าใจคลาดเคลื่อนกระผมจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส และขอลาสิกขา เพื่อให้หน่วยงานของรัฐสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้อย่างเป็นอิสระและสมบูรณ์"
ทั้งนี้ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 พ พ.ต.อ.วนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ ผกก.2 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบได้เข้าสอบถามถ้อยคำ จากพระเทพพัชราภรณ์ ในฐานะพยานให้ข้อมูลเบื้องต้นโดยระบุว่า "จากการสอบถามข้อเท็จจริง ไม่พบพฤติการณ์ใดเกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกหรือ 'สีกา' ตามที่มีข่าวลือในสื่อสังคมออนไลน์ ข้อมูลที่ได้รับฟังอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน และยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาใดทั้งสิ้น"
การแสดงออกของ พระเทพพัชราภรณ์ ครั้งนี้ สะท้อนถึงภาวะผู้นำทางธรรมที่ให้ความสำคัญกับหลักธรรมวินัย ความสงบสุขของคณะสงฆ์ และศรัทธาของญาติโยม ท่านเลือกแสดงความบริสุทธิ์ใจและยอมสละตำแหน่ง รวมถึงสมณเพศชั่วคราว เพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏชัดเจน และเป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาโดยรวม
