เจาะประเด็นข่าว 7HD - เมื่อวานนี้หลายพื้นที่มีฝนตก อย่างที่เชียงใหม่ ตกหนักชนิดที่ว่าน้ำระบายไม่ทัน จนท่วมขังใจกลางเมือง
คุณผู้ชมเห็นภาพอย่างพึ่งตกใจว่าน้ำที่ท่วมเป็นน้ำที่ล้นมาจากแม่น้ำปิง แต่น้ำท่วมในภาพคือน้ำรอการระบาย โดยจุดที่เกิดเหตุคือ ถนนช้างคลาน และถนนเจริญประเทศ ในอำเภอเมืองเชียงใหม่ หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ฝนตกหนักนาน 20 นาที
กระทั่งทำให้เกิดน้ำท่วมขังสูงถึง 50 เซนติเมตร ผู้ใช้รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จากที่ขับขี่กันมาปกติ จู่ ๆ กลายเป็นผู้ประสบภัย จอดเสีย จอดดับกันกลางถนน ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ เทศบาลนครเชียงใหม่ ก็ออกมาช่วยเหลือ ซึ่งชาวบ้าน พากันตั้งคำถามว่า ไหนว่าขุดลอกท่อไปแล้ว ทำไมน้ำยังท่วมอีก
ซึ่งทางนายอัศนีย์ บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ได้สั่งการให้เร่งแก้ไข กระทั่งช่วง 23.00 น. น้ำเริ่มแห้งสนิท แต่ชาวบ้านยังไม่สนิทใจ เพราะฝนตกแค่ 20 นาที ยังขนาดนี้ ถ้าเจอพายุเข้าเต็ม ๆ ผวาน้ำจะท่วมหนักอีก
ส่วนที่ จังหวัดสุโขทัย เจ้าหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลยางซ้าย เร่งซ่อมแซมตลิ่งริมแม่น้ำยม นำดินมาถมและบดอัด และตอกเสาไม้ยูคาลิปตัสเป็นแนวยาวกว่า 20 เมตร จุดที่คันกั้นน้ำทรุดตัว บริเวณ หมู่ 12 ตำบลยางซ้าย อำเภอเมืองสุโขทัย สร้างความกังวลใจให้ชาวบ้าน หลายคนกลัวว่า หากน้ำเหนือหลากลงมาตามแม่น้ำยม น้ำจะเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือ เรียกว่าเครียดกันจนนอนไม่หลับมาหลายวัน
ขณะที่ สถานการณ์แม่น้ำยม ยังทรงตัว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง
ที่จังหวัดชัยนาท กรมชลประทาน ได้ระบายน้ำในเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้มีน้ำผ่านท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น 700-1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หวังรองรับน้ำที่หลาก จากทางเหนือ
ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล และแม่น้ำน้อย ในพื้นที่อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับสูงขึ้นจากปัจจุบันอีก 20-80 เซนติเมตร
และได้มีการส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการ 11 จังหวัดลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร กำชับให้ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตลอด 24 ชั่วโมง
ปิดท้ายที่จังหวัดนนทบุรี ความแรงของลมฝนเมื่อคืนนี้ ทำให้บ้านไม้ 2 ชั้น ในพื้นที่ ชุมชนวัดแสง ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด พังลงมาทั้งหลัง และพังทับบ้านที่อยู่ติดกัน ดีที่ระหว่างเกิดเหตุ ครอบครัวเจ้าของบ้าน หนีออกมาได้ทัน ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ยังอยู่ในอาการตกใจ ช่วงนี้ต้องไปอาศัยบ้านญาติ แทน
ส่วนสาเหตุที่บ้านพังถล่ม ทางอบต.ท่าอิฐ ตรวจพบ ตลิ่งริมน้ำทรุดตัว หลังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยากัดเซาะ รวมทั้งช่วงเกิดเหตุุมีฝนตกหนักและลมแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งสำรวจบ้านเรือนในชุมชน เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือและป้องกัน ต่อไป
ที่จังหวัดพังงา มีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงนานกว่า 2 ชั่วโมง บริเวณชายหาดแหลมปะการัง ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า
แรงลมทำให้ต้นไม้ใหญ่หักโค่น เกี่ยวดึงสายไฟ และทำให้เสาไฟฟ้าล้มระเนระนาด ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าตามที่พัก, รีสอร์ต และบ้านเรือนประชาชน ถูกตัดชั่วคราว และมีรถยนต์ รวมถึงรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายหลายคัน
เวลานี้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการ นำเลื่อยยนต์เข้าตัดกิ่งไม้-ต้นไม้ พร้อมเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวาง เพื่อเปิดเส้นทางถนนหน้าหาดแหลมปะการัง ให้กับมาสัญจรได้ตามปกติแล้ว
ส่วนกระแสไฟฟ้านั้น ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาตะกั่วป่า จะเร่งแก้ไขให้แล้วเสร็จ ก่อนค่ำวันนี้
พายุโซนร้อนกำลังแรง "วิภา" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนทางเหนือเล็กน้อย คาดว่า ในช่วงวันที่ 21-22 กรกฎาคมนี้ จะเคลื่อนตัวลงสู่อ่าวตังเกี๋ย
และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน โดยจะอ่อนกำลังลง เป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ หลังจากนั้นมีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศลาวตอนบน และภาคเหนือตอนบนต่อไป
จากอิทธิพลของพายุ "วิภา" และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จะส่งผลทำให้ วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 24 กรกฎาคม บริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสม