เช้านี้ที่หมอชิต - สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร้อนระอุอีกรอบ เมื่อทหารลาดตระเวน เหยียบทุ่นระเบิด รอบที่ 2 เป็นเหตุทำให้ทหารขาขาด 1 นาย
ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด ขาขาด 1 นาย
เฮลิคอปเตอร์ นำทหารชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 ที่ได้รับบาดเจ็บเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวน ในพื้นที่ห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเวลา 16.55 น. มาส่งมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ จ่าสิบเอก พิชิตชัย บุญชูหล้า บาดเจ็บสาหัส ขาขวาขาด นอกจากนี้ยังมียังมีพลทหารถูกแรงระเบิด มีอาการแน่นหน้าอก หูอื้อ อีก 4 นาย ทั้งหมดอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ซ้ำรอย 7 วัน ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร้อนระอุอีกรอบ เมื่อย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทหารชุดลาดตระเวนเพิ่งเหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ไปยังเนิน 481 เป็นเหตุทำให้ พลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน กำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 บาดเจ็บเท้าซ้ายขาด และยังมีเพื่อนทหาร ได้รับบาดเจ็บอีก 2 นาย
พลทหาร ธนพัฒน์ ยังรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ วานนี้ก็มีภาพลุกขึ้นมาฝึกเดิน เจ้าตัวมีกำลังใจดี
เหตุการณ์ในครั้งนั้นยืนยันว่า เป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ ทางกัมพูชาก็ยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบ จนมาเกิดเหตุซ้ำ ช่องอานม้า ตั้งอยู่ห่างจากช่องบก ประมาณ 40 กิโลเมตร
ชาวบ้านเห็นด้วย ยกระดับตอบโต้กัมพูชา
ทำให้แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งปิดปราสาทฯ ในจังหวัดสุรินทร์ และ 4 ด่านฯ ใน 3 จังหวัด ด่านช่องจอม ด่านช่องสายตะกู ด่านช่องอานม้า และด่านช่องสะงำ มีผลวันนี้ (24 ก.ค.)
เมื่อช่วง 20.00 น. คืนที่ผ่านมา ทหารประจำด่านช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ได้ปิดด่านฯ ก่อนเวลาที่กำหนดเป็นที่เรียบร้อย
แม่ค้าชาวไทยที่ขายกับข้าวตรงข้ามตลาดชายแดนช่องจอม บอกว่า ดีใจที่แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งปิดด่านฯ และปราสาทฯ เพราะคลุมเครือมานาน มองว่า ยิ่งยืดเยื้อกัมพูชาก็ได้ใจ หากมีการสู้รบพร้อมที่จะอพยพทันที