เช้านี้ที่หมอชิต - มีความเห็นจากหลายภาคส่วนหลังเกิดเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดครั้งล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหญ่ ๆ 2 พรรคที่ออกแถลงการณ์ประณาม
หลายฝ่ายประณามเหตุรุนแรงที่ชายแดน
โดยพรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนกัมพูชา พร้อมระบุว่า กับระเบิด ซึ่งแน่ชัดว่าถูกวางขึ้นใหม่ ละเมิดสนธิสัญญาออตตาวา ทำลายหลักสิทธิมนุษยชน เหยียบย่ำเจตนารมณ์แห่งสันติภาพอย่างยอมรับไม่ได้
นี่ไม่ใช่สิ่งที่มิตรประเทศพึงปฏิบัติระหว่างกัน จึงขอสนับสนุนทุกมาตรการตอบโต้ของรัฐบาล กองทัพ และกระทรวงการต่างประเทศตามหลักการสากล
เช่นเดียวกับพรรคประชาชน สื่อสารไปยังรัฐบาลกัมพูชาโดยตรงหลังเกิดเหตุการณ์ว่า "ประเทศของท่านเอง เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคลมากที่สุดในโลก ทำให้ผู้คนล้มตายมากมาย มีคนกัมพูชาที่พิการสูญเสียแขนขาอย่างน้อย 4 หมื่นคน และยังมีที่ดินอีกกว่า 1,700 ตารางกิโลเมตร ที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เพราะยังเก็บกู้ทุ่นระเบิดไม่เรียบร้อย"
ดังนั้น การวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลเพิ่มขึ้นใหม่โดยทหารกัมพูชา จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าหน้าที่ทหารไทย 2 กรณีในช่วงเวลาไม่กี่วัน จึงเป็นสิ่งที่น่าละอาย และยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง
พรรคประชาชนยังขอให้ประชาคมระหว่างประเทศ ช่วยกันกดดันให้รัฐบาลกัมพูชา ยุติการกระทำอันละเมิดกติการะหว่างประเทศดังกล่าว และหันมาแสวงหาสันติภาพด้วยกลไกทวิภาคีที่มีอยู่
และสุดท้าย พรรคประชาชนขอสื่อสารไปยังรัฐบาลไทยว่า พรรคสนับสนุนให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างเข้มข้น ในกรณีที่กัมพูชาละเมิดกติการะหว่างประเทศ จนก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของทหารไทย และขอให้รัฐบาลเตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัยของประชาชนบริเวณชายแดน
นอกจากนี้ยังมีหลายฝ่ายวิเคราะห์สถานการณ์ว่า เรื่องของการวางทุ่นระเบิดเพื่อหวังให้ไทยหมดความอดทน และยั่วยุให้เกิดการปะทะ ก่อนที่กัมพูชาจะฉวยโอกาสนำเรื่องขึ้นไปพูดคุยในระดับนานาชาติ
ไทยเดินเกมรุกย้ำจุดยืนต่อคณะทูตนานาชาติ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศ ได้บรรยายสรุปแก่คณะทูต และผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เกี่ยวกับสถานการณ์ โดยมีเอกอัครราชทูต และผู้แทนจากสถานทูตต่างประเทศ 93 คน จาก 68 ประเทศเข้าร่วมรับฟัง
กระทรวงการต่างประเทศ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องของไทย ย้ำว่าทุ่นระเบิดเป็นของกัมพูชา และเรียกร้องให้กัมพูชา ให้ความร่วมมือเก็บกู้วัตถุระเบิด และสืบสวนข้อเท็จจริง
นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่าจากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เมื่อวาน (23 ก.ค.) กระทรวงฯ ได้มอบหนังสือประท้วงถึงเอกอัครราชทูตกัมพูชาฯ ถึงการละเมิดอธิปไตย ไม่ปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวา จึงขอให้กัมพูชารับผิดชอบ รวมถึงเยียวยาผู้เสียหาย และเก็บกู้วัตถุระเบิดตามที่เคยมีการตกลงกันไว้
และอีกด้านหนึ่ง ตอนนี้นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐฯ ก็ได้มีโอกาสพบผู้แทนระดับสูงจากต่างประเทศ จึงได้ใช้โอกาสนี้ยืนยันจุดยืนไทยต่อประชาคมโลก ในการแก้ปัญหาอย่างสันติ และการเจรจาผ่านกรอบทวิภาคี