”แพทองธาร“ โต้คำครหาการสู้รบ ไทย-กัมพูชา เกิดจากความขัดแย้ง ตระกูล ”ฮุน-ชินวัตร“ มั่นใจแล้วสาเหตุเริ่มจากโกรธปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ Cambodia มีฉายาที่โลกตั้งให้ ยังจะเชื่อในสิ่งที่กัมพูชาเสนออีกนานแค่ไหน
วันนี้ (26 ก.ค.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวชี้แจงกรณีมีความพยายามเชื่อมโยงว่า 2 ตระกูลทะเลาะกัน ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า จำกันได้หรือไม่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนที่แล้ว ตนได้มีการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างจริงจัง โดยได้สั่งการผ่านกระทรวงมหาดไทย ให้ตัดน้ำ ตัดไฟตั้งแต่ชายแดน ลาวกับเมียนมา และทำให้ได้ผลจริง ๆ และคอลเซนเตอร์ที่โทรหาประชาชนลดลงอย่างเห็นได้ชัด มูลค่าความเสียหายที่ประเมินตัวเลขได้เยอะมาก ประชาชนที่ถูกหลอก จนต้องจบชีวิตตัวเอง หรือเงินหายไปจากบัญชีอย่างรวดเร็ว ซึ่งประเทศไทย, ลาว และเมียนมาได้ทำภาคีร่วมกัน เพื่อจะฝากแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างจริงจัง
นายกฯ อิ๊งบอกด้วยว่า ตอนนั้นเกิดความสับสน เพราะก็ยังติดต่อกับทางกัมพูชาในเรื่องสัมพันธ์ส่วนตัว และได้รับแจ้งจากคนที่แปลว่า เขาโกรธ ที่ไม่ปรึกษาเรื่องนี้กับทางกัมพูชา ตนจึงโทรไปคุยส่วนตัว ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้ถูกอัดเสียง ไม่ทราบว่า เป็นการเสียผลประโยชน์หรือไม่ เพราะเรื่องแก้ปัญหายาเสพติดและปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ อาชญากรรมออนไลน์ เป็นหน้าที่รัฐบาล ซึ่งเมื่อได้คุยกันแล้วก็ทราบว่า กัมพูชาไม่พอใจที่ไม่เชิญไปร่วมด้วย ตนก็เลยตอบกลับไปว่าจะบวกกัมพูชาร่วมไปด้วย แต่ทางกัมพูชากลับบอกว่า ไม่ต้องบวก ให้มาทำกันแค่ 2 ประเทศพอ (ไทยกับกัมพูชา) ตนจึงให้ดำเนินการนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
ดังนั้นเมื่อกลับมานึกย้อน ก็รู้ว่าเป็นการแสดงความไม่พอใจตั้งแต่ตอนนั้น แต่ก็ไม่คิดว่า ความไม่พอใจนี้ เป็นความไม่พอใจในการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์หรือไม่ เพราะไม่เคยทราบเลยว่าจะมีประเทศใดไม่พอใจ เมื่อประชาชนถูกหลอก และรัฐบาลมาช่วย ก็เป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่หรือ จึงทำให้รู้สึกว่า เราคงไปขัดผลประโยชน์บางอย่างหรือไม่ จึงทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ตนก็ไม่แน่ใจ ซึ่งตนก็มั่นใจว่า รัฐบาลที่เข้ามาไม่ว่าจะใช้ตระกูลชินวัตรหรือไม่ ก็ต้องปราบเรื่องนี้เพราะเป็นผลกระทบต่อคนไทย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปราบเช่นเดียวกับยาเสพติด
ส่วนที่สื่อของกัมพูชานำเสนอภาพ ของนายกรัฐมนตรี และพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ขอให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศจดจำว่า 2 คนนี้ เป็นต้นเหตุของสงคราม นายกรัฐมนตรีย้อนถามว่า เราจะเชื่อในสิ่งที่กัมพูชาเสนออีกนานหรือไม่ อย่างเรื่องของตน เขาโพสต์ปล่อยคลิป แล้วเขาก็มาบอกว่า ไม่ได้ปล่อย เขาอาจจะโพสต์รูปสาวสวย ๆ แต่บอกว่า ไม่ได้โพสต์ก็ได้ ไม่ได้ทำไปแล้วก็บอกว่าไม่ได้ทำทุกอย่าง เขาก็มีฉายาอยู่แล้ว Cambodia มีฉายา ซึ่งทั่วโลกก็ตั้งให้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะถ่ายมือ และส่ายศีรษะปฏิเสธว่า " ดิฉันไม่ได้ตั้งให้" ก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เป็นแบบนั้น ตนจึงคิดว่า เราต้องมั่นใจ อย่าคิดว่าต้องใช้อารมณ์ ว่าเพราะต้องคนนั้นคนนี้ มันเกิดขึ้นเพราะกัมพูชา และเกิดขึ้นเพราะเราปราบคอลเซนเตอร์ มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว
นายกฯ ย้ำว่า ไม่เสียใจเลยที่ทำการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ เพราะช่วยคนได้เยอะมาก ฝ่ายความมั่นคงทุกหน่วยทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ และได้ผลจริง ๆ ตนคิดว่าไม่ใช่แค่ประเทศเราไม่เสียใจเรื่องนี้ ทุกประเทศก็คิดแบบนี้ ยกเว้นประเทศที่เสียผลประโยชน์เท่านั้น
เมื่อถามว่า ครั้งนี้ถือว่า "ชินวัตร" ช้ำหนักหรือไม่ นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่คิดว่า "ชินวัตร" ช้ำหนัก ในเรื่องนี้เลย เพราะเราทำเพื่อประเทศ การถูกบิดทางการเมือง ถูกใส่ความ ตนจึงอยากให้หยุดเรื่องนี้ก่อน เพราะมันไม่ใช่ ตั้งแต่สมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ความสัมพันธ์ส่วนตัวดีมาก แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นนายทักษิณก็เอาเรื่องของประเทศมาก่อนอยู่ดี ไม่ได้บอกว่าเป็นเพื่อนกันไม่ทำร้ายกัน แต่ต้องเอาเรื่องของประเทศก่อน