เช้านี้ที่หมอชิต - สถานการณ์การปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา พื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พบว่าทางฝ่ายกัมพูชายังคงระดมยิงปืนใหญ่ และจรวดบีเอ็ม 21 เข้ามาในพื้นที่อำเภอน้ำยืน ตั้งแต่เวลา 03:00 น (28 ก.ค.) เป็นต้นมา อย่างที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี
ช่องอานม้าระอุ หนีหลบภัยบังเกอร์ จ.อุบลราชธานี
จากเสียงปืนที่ดังขึ้นเวลา 11.00 น.วานนี้ ทำให้ชาวบ้านต้องอุ้มแมว สัตว์เลี้ยงหนีตายออกจากบ้าน เพื่อมาอยู่ที่บังเกอร์หลบภัยชั่วคราว ขณะหลายพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการเข้าพื้นที่มากขึ้น คัดกรองรถทุกคัน หลังเกิดสถานการณ์ความตึงเครียด
ซึ่งในหมู่บ้านยังมีชุด ชรบ. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง คอยตรวจลาดตระเวนตามหมู่บ้าน เพื่อดูแลความปลอดภัย พร้อมกับแจ้งข่าวกับชาวบ้านเป็นระยะ
จรวด BM-21 ตกสวนปาล์มชาวบ้าน 8 ลูก จ.อุบลราชธานี
ส่วนอีกจุดของอำเภอน้ำยืน ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบในสวนปาล์มของชาวบ้าน หลังทหารกัมพูชาใช้อาวุธ BM-21 ชุดแรก ยิงกระสุนตกบริเวณสวนปาล์ม จำนวน 8 ลูก เวลา 11.00 น. วานนี้ พบความเสียหายของต้นไม้จากแรงระเบิดหลายจุด และยังมีวัวของชาวบ้านบาดเจ็บ 1 ตัว
นายพวย ตันถา อายุ 64 ปี เจ้าของวัว บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองนำวัวไปผูกเลี้ยงให้กินหญ้าอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ ไม่นานได้มีเสียงระเบิดดังขึ้น จึงวิ่งเข้าไปดู พบว่าลูกวัวตัวเมีย อายุ 2 ปี บาดเจ็บไส้ทะลัก ตนเองจึงลากวัวไปไว้ในที่ปลอดภัย และรีบหนีออกจากจุดเกิดเหตุ
ส่วนความรู้สึกของชาวบ้าน หลังรู้ผลการเจรจาหยุดยิง บอกว่า รู้สึกดีหากสามารถทำได้จริง แต่ส่วนตัวแล้วไม่อยากจะเชื่อว่ากัมพูชาจะทำตามข้อตกลง ที่ผ่านมาชาวบ้านอยู่ด้วยความลำบาก ต้องอพยพไปอยู่ต่างถิ่น
สถานการณ์กลางคืน เวลาประมาณ 21.00 น. พื้นที่อำเภอน้ำยืน ยังคงมีเสียงปืนดังเป็นระยะ แม้ผลการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและกัมพูชาว่าจะหยุดการยิงช่วงเที่ยงคืน โดยเจ้าหน้าที่ ชรบ. ฝ่ายปกครอง ยังคงลาดตระเวนตามแนวชายแดนต่อเนื่อง ดูแลความปลอดภัยให้ชาวบ้าน
ล่าสุดช่วงช่วงเที่ยงคืนครึ่ง ทางผู้สื่อที่ประจำในพื้นที่อำเภอน้ำยืน ให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์เงียบสงบ ไม่มีเสียงปืน
