นายธำรงศักดิ์ นคราวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานตราด เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำบนเกาะกูดน่าเป็นห่วง แม้จะมีปริมาณฝนตกสูงเฉลี่ยปีละกว่า 5,457 มิลลิเมตร แต่กลับสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ไม่มากนัก แต่เกาะกูดเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (จากปี พ.ศ. 2556 ที่มีนักท่องเที่ยว 124,508 คน เพิ่มเป็น 251,823 คน ในปี พ.ศ. 2566) ทำให้ความต้องการใช้น้ำพุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาล ทั้งเพื่อการท่องเที่ยว อุปโภค บริโภค และภาคการเกษตรที่หันมาปลูกพืชเศรษฐกิจมูลค่าสูง เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด และมะพร้าวน้ำหอม
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า ความต้องการใช้น้ำทุกกิจกรรมบนเกาะจะสูงถึงประมาณ 3.91 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ในขณะที่แหล่งน้ำปัจจุบันมีเพียง ฝาย สระเก็บน้ำ และบ่อบาดาล ซึ่งเพียงพอแค่ช่วงต้นฤดูแล้งเท่านั้น แต่กลับประสบปัญหาขาดแคลนอย่างหนักในช่วงฤดูท่องเที่ยว (กุมภาพันธ์-พฤษภาคม) ซ้ำร้ายน้ำบาดาลบางแห่งยังมีปัญหาเรื่องสีและกลิ่นสนิมอีกด้วย

ขณะเดียวกันเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว นายพิเชษฐ รัตนปราสาทกุล ผู้อำนวยการสำนักออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม กรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทานตระหนักถึงความเร่งด่วนของปัญหา จึงได้เร่งรัดโครงการอ่างเก็บน้ำคลองเจ้า ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสำรวจและออกแบบรายละเอียด โดยคาดว่าจะจัดทำแบบรายละเอียดฉบับสมบูรณ์แล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2568 และมีแผนจะเริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2573 เมื่อโครงการอ่างเก็บน้ำคลองเจ้าก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล โดยสามารถส่งน้ำให้พื้นที่การเกษตรได้ถึง 2,307 ไร่ ทำให้เกษตรกรมีน้ำใช้ตลอดปี ลดปัญหาขาดแคลนน้ำ เพิ่มผลผลิต และสร้างรายได้ที่มั่นคง
นอกจากนี้ ยังสามารถส่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการท่องเที่ยวได้ประมาณ 2.44 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ซึ่งจะช่วยรองรับความต้องการใช้น้ำของประชาชนและภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน ที่สำคัญยังช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศท้ายน้ำ และทำให้น้ำตกคลองเจ้ามีน้ำไหลตลอดทั้งปี แม้ในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย กรมชลประทานยังได้วางมาตรการลดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรอบคอบ โดยจะใช้วัสดุก่อสร้างจากภายในพื้นที่อ่างเก็บน้ำให้มากที่สุด และขนส่งวัสดุจากภายนอกเข้ามาให้น้อยที่สุด เพื่อลดปัญหาเสียง ฝุ่น และการจราจร เนื่องจากเกาะกูดเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ
ด้าน นายไพรัช สร้อยแสง นายอำเภอเกาะกูด ยืนยันว่าปัญหาการขาดแคลนน้ำจืดในฤดูแล้งเป็นปัญหาเรื้อรังที่ทุกหมู่บ้านพยายามร่วมมือกันแก้ไขมาโดยตลอด เมื่อการท่องเที่ยวขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนนับแสนคนต่อปี สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศนับพันล้านบาท โครงการอ่างเก็บน้ำคลองเจ้าจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับเกาะกูด อย่างไรก็ตาม อยากให้มีการออกแบบอ่างเก็บน้ำให้เหมาะสมกับความต้องการของชาวบ้านด้วย

ขณะที่ นายนิยม นวลหงส์ ชาวบ้านหมู่ 5 กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านต้องพึ่งพาตนเองด้วยการขุดบ่อน้ำหรือบ่อบาดาล ซึ่งมักจะไม่เพียงพอทั้งน้ำเพื่อการเกษตรและน้ำกินน้ำใช้ในช่วงฤดูแล้ง จึงอยากให้โครงการอ่างเก็บน้ำคลองเจ้าเกิดขึ้นจริง เพื่อเป็นหัวใจในการแก้ปัญหาทั้งภาคเกษตรกรรมและการท่องเที่ยวบนเกาะกูด
ทั้งนี้ นายสุบิน บุญแดง ผู้ประกอบการเกาะกูดอ่าวพร้าวบีชรีสอร์ต สะท้อนปัญหาของผู้ประกอบการที่ต้องขุดบ่อบาดาลเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว แต่ในฤดูท่องเที่ยวซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน น้ำมักมีไม่พอเพียง รีสอร์ตบางแห่งประสบปัญหาน้ำบาดาลกร่อย และ จำเป็นต้องงดให้บริการนักท่องเที่ยวเนื่องจากน้ำจืดมีไม่พอเพียง ทั้งที่จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นทุกปี กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวจึงคาดหวังว่าโครงการอ่างเก็บน้ำคลองเจ้าจะเกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาน้ำให้เกาะกูดได้อย่างยั่งยืน

ส่วน นายสุธี ศิริราชนิยม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 กล่าวว่า ในฤดูแล้งจำเป็นต้องจ่ายน้ำให้หมู่บ้านเป็นเวลา เนื่องจากน้ำกินน้ำใช้มีไม่เพียงพอ แม้ในหมู่บ้านจะมีการรับนักท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ ทำให้ผู้ประกอบการต้องซื้อน้ำมาบริการนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ จึงเห็นด้วยกับโครงการอ่างเก็บน้ำคลองเจ้า แต่ก็อยากให้พิจารณาลดขนาดอ่างเก็บน้ำลง เพื่อลดผลกระทบกับพื้นที่ป่า ซึ่งเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของเกาะกูด โครงการอ่างเก็บน้ำคลองเจ้าจึงเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำในพื้นที่เกาะกูด เพื่อตอบสนองความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น เสริมสร้างความมั่นคงด้านแหล่งน้ำในระยะยาว ทั้งสำหรับการอุปโภคบริโภค การท่องเที่ยว และการเกษตรกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน