เช้านี้ที่หมอชิต - จากการที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ตามประกาศของกรมอุตุฯ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักทั้งทางภาคอีสาน และภาคเหนือ เช่น อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก น้ำแม่น้ำเมยหลากท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นรอบที่ 2 หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่อง 10 วัน เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ
ต.ท่าสายลวด น้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร
ทหารร่วมกับเทศบาลตำบลท่าสายลวด ใช้เรือท้องแบนนำอาหารและน้ำดื่มช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดค้างในบ้าน โดยมีการวางแผนแบ่งเส้นทางการลำเลียงส่งอาหาร แบ่งเป็น 3 มื้อ ใช้เรือท้องแบน 10 กว่าลำ พร้อมกันนี้ ยังต้องตัดกระแสไฟฟ้าในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
สำหรับการช่วยเหลือชาวบ้านนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะบางจุดระดับน้ำสูงถึง 5 เมตร บางจุดน้ำตื้นเขินแต่ซอยแคบเข้าลำบาก ต้องใช้แรงคนเดินลุยน้ำส่งอาหารให้ชาวบ้าน
นายภัควัต สุยะขัด รองนายกเทศมนตรีตำบลท่าสายลวด กล่าวว่า บ้านหนองต้นผึ้งในขณะนี้น้ำสูงประมาณ 3 เมตร เป็นอย่างต่ำ ส่วนอาหารเบื้องต้นแจกคนละ 1 กล่อง กับน้ำ 1 ขวด ทั้งหมด 3 มื้อ
อันตราย! ถนน อ.แม่สอด ทรุดตัว
ปัญหาจากฝนตกหนัก ยังส่งผลให้ถนนคอนกรีตทางหลวงสาย อำเภอแม่สอด - อำเภอเมืองตาก ทรุดตัวทางยาวหลายเมตร เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงตาก เขต 2 ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ราว 30 คน เข้าสำรวจหาทางแก้ไข และปิดถนนตั้งแต่บริเวณศาลเจ้าพ่อพะวอ เขตตำบลพะวอ อำเภอแม่สอด รวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงตากที่ 2 (แม่สอด) บอกว่า สาเหตุเพราะฝนตกหนักต่อเนื่องนาน 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ แขวงทางหลวงตากที่ 2 (แม่สอด) มีการจัดเวรยามเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
น้ำโขงเพิ่มสูงต่อเนื่องใกล้จุดวิกฤต
ส่วนทางภาคอีสาน จังหวัดบึงกาฬ น้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยบางบาตรเอ่อล้นท่วมเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้าน หมู่ที่ 7 ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า ระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านกว่า 70 หลังคาเรือน สัญจรลำบาก ชาวบ้านและเด็ก ๆ นักเรียน นั่งรถยกสูงทั้งไปและกลับโรงเรียน
ส่วนสถานการณ์แม่น้ำโขง วัดจากสถานีบ้านพันลำ ตำบลวิศิษฐ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ ระดับน้ำอยู่ที่ 12.70 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 1.30 เมตร มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
ขณะนี้ชาวบ้านได้รับผลกระทบแล้วจำนวน 7 อำเภอ 21 ตำบล 86 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 8,610 ไร่
รองผู้ว่าฯ จังหวัดบึงกาฬ จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยจังหวัด และประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตาม พร้อมกับประเมินสถานการณ์ทุกวันอย่างต่อเนื่อง เตรียมพร้อมกำลังพล เครื่องมือ เครื่องจักรกลให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง