วันนี้ (2 ส.ค. 68) นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เปิดเผยว่า การชุมนุมวันนี้ จุดประสงค์หลักจะเป็นการให้กำลังใจ ทหารและเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ปกป้องอธิปไตย
ซึ่งจะต่อเนื่องจากการชุมนุมครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง และให้พรรคร่วมถอนตัวจากรัฐบาล สู้รบกันในแนวชายแดนนี้และตั้งแต่ถึงตอนนี้รัฐบาลก็ยังไม่แสดงความรับผิดชอบใด ๆ ออกมา โดยเฉพาะการสูญเสียทหาร และเสียดินแดนตรงพื้นที่บริเวณประสาทตาควายนั้นนับว่าเป็นเรื่องรุนแรงที่สุด
ส่วนเรื่องที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปเจรจาโดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม ในฐานะประธานอาเซียน เป็นคนกลางนั้น ยิ่งไม่สมเหตุสมผล เพราะปัญหานี้ไม่ควรให้บุคคลที่ 3 เข้ามามีส่วนร่วม และตัวของอันวาร์ ก็มีปัญหาภายในประเทศอยู่ รวมทั้งมีความสนิทสนมกับ ฮุน มาเน็ต
สุดท้ายผลการเจรจาก็ไม่เป็นผลเพราะกัมพูชาละเมิดข้อตกลง แทนที่รัฐบาลไทย จะตั้งข้อสังเกตตั้งแต่แรกแล้วว่าทำไมไม่ยอมหยุดยิงตั้งแต่ 6 โมงเย็น ซึ่งไม่มีเหตุผล ที่จะต้องรอเวลาจนถึงเที่ยงคืน ไม่รู้ว่ารัฐบาลโง่หรือแกล้งโง่กันแน่ ถือว่าเป็นความด่างพร้อยสำหรับรัฐบาลนี้เป็นอย่างมาก นี่คือหัวข้อหลักในการปราศรัยวันนี้ เพราะตนเชื่อว่าไทยไม่ได้แพ้ในสงครามแต่แพ้เพราะตัวแทนรัฐบาลแสดงความโง่ออกมา
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรี ออกมาพูดว่า อยากให้พักปัญหาภายในประเทศก่อน นายจตุพรมองว่า รัฐบาลไม่สามารถปกป้องอธิปไตยได้ จนนำไปสู่การเสียดินแดน เพราะฉะนั้นการมาชุมนุมในวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด และเป็น การแสดงศักยภาพในภาคประชาชนที่ออกมาให้กำลังใจทหาร
ส่วนเรื่องคลิปเสียงสนทนานั้น ตนได้รับข้อมูลมาว่า ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันวันที่ 15 มิถุนายน วันต่อมานายกรัฐมนตรีก็ออกมาพูดว่า ได้พูดคุยกับรัฐบาลกัมพูชาถึงความร่วมมือในการปราบปรามแจ้ง Call Center แต่คลิปเสียงสนทนาหลุดออกมาสู่สาธารณะในวันที่ 18 มิถุนายน ก็ไม่มีกวารพูดคุยกันถึง เรื่องปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์เลยสักคำเดียว