หวิดปะทะ ชายหัวร้อนชักปืนขู่ผัว-เมีย เหตุขับรถปาดหน้ากัน คู่กรณีผวาเข้าแจ้งความ ตำรวจตามรวบถึงบ้านพัก เจ้าตัว อ้างอีกฝ่ายขับรถกินเลน ยัน ไม่มีเจตนายิงใส่ แค่ขู่ให้เลิกตาม
วันนี้ (3 ส.ค.68) นายกิตติ อายุ 59 ปี และนางบุษบง อายุ 42 ปี สองสามีภรรยา เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.หญิง ฐณฏ เมืองสิงห์ รองสว.(สอบสวน) สภ.บางแก้ว เพื่อให้จับกุมตัวและดำเนินคดีกับชายหัวร้อนชักปืนขู่กลางถนนเทพรัตนขาเข้า ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 8 ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนหลบหนีไป หลังจากทั้งสองมีปัญหาเรื่องขับรถปาดหน้ากันไปมาบนถนน พร้อมนำหลักฐานเป็นภาพและคลิปจากกล้องโทรศัพท์มือถือมามอบให้เป็นหลักฐาน เหตุเกิดช่วง 15.00 น. วันนี้
นายกิตติ ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนและภรรยาขับรถอกมาจากบ้านที่จังหวัดชลบุรี เพื่อจะไปงานอีเวนท์ที่บางนา โดยใช้เส้นทางถนนเทพรัตนขาเข้า เมื่อขับรถมาถึงช่วงหลักกิโลเมตรที่ 15 ตอนนั้นตนขับรถอยู่เลนกลางของถนน อยู่ๆ มีรถ SUV สีบอร์น คู่กรณีขับตามหลังมาในเลนซ้ายสุด จากนั้นปาดเข้าเลนขวาจนเกือบเฉี่ยวกระจกมองข้างของรถตนเอง ทำให้ภรรยาถึงกับตกใจ ตอนแรกตนไม่ได้ติดใจอะไร และขับตามหลังไปได้ไม่นาน ปรากฏว่ารถคู่กรณีขับปาดจากขวาเข้ามาในเลนตนอีกครั้ง ทำให้ตนเริ่มรู้สึกโกรธที่ถูกปาดซ้ำรอบที่สอง จึงขับไล่ตามตีคู่กับรถคู่กรณี เพื่อจะถามถึงสาเหตุที่มาปาดหน้า แต่ฝ่ายคู่กรณีเร่งเครื่องหนี ตอนนั้นตนยอบรับว่ามีอารมณ์ร้อนเช่นกัน เพราะถูกปาดหน้าโดยไม่ทราบสาเหตุ
กระทั่งเร่งเครื่องตีคู่และเรียกให้คู่กรณีจอดรถข้างทางอีกครั้ง แต่คู่กรณีไม่จอด ตนจึงปาดหน้าคืน อีกฝ่ายจึงขับตีคู่ขึ้นมาก่อนจะเปิดกระจกฝั่งคนขับและชักปืนขึ้นมาจ่อหันปลายกระบอกปืนมาทางตน ขณะนั้นภรรยาเห็นท่าไม่ดีจึงคว้าโทรศัพท์มาถ่ายคลิปเอาไว้ได้ พอหลังจากที่อีกฝ่ายเอาปืนขึ้นมาจ่อ ตนจึงแตะเบรกและลดความเร็วทันที เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะยิงใส่ จากนั้นจึงรีบแจ้งตำรวจให้สกัดจับ
ล่าสุด พ.ต.ท.สิทธิชัย ปลื้มประเสริฐ รอง ผกก.ป.สภ.บางแก้ว พร้อมด้วยตำรวจสายตรวจนำกำลังเข้าจับกุมผู้ก่อเหตุได้ที่บ้านพักย่านบางแก้ว พร้อมของกลางเป็นปืนแม็กกาซีนกึ่งออโตเมติก ขนาด .380 พร้อมด้วยกระสุนปืน ขนาด .380 หัวระเบิดบรรจุในแม็กกาซีนจำนวน 6 นัด โดยผู้ก่อเหตุคือนายพีรพัฒน์ อายุ 55 ปี เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.บางแก้ว ก่อนจะทำบันทึกจับกุมส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจากการตรวจสอบอาวุธปืนพบว่ามีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่มีใบอนุญาตนำพาหรือพกพาอาวุธปืนแต่อย่างใด
ด้าน นายพีรพัฒน์ ยอมรับว่า มีการขับปาดกันไปมาจริง เนื่องจากอีกฝ่ายขับรถมากินเลนตน หลังจากที่มีการขับปาดกันไปมาช่วงหนึ่ง ตนจึงเร่งเครื่องหนี จนเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตามมา จึงขับมาตามทางปกติ จนมาถึงช่วงหลักกิโลเมตรที่ 8 พบว่าอีกฝ่ายขับตามมาทันและขับรถปาดหน้ากันอีกครั้ง ตนจึงตัดสินใจหยิบปืนที่อยู่ในรถขึ้นมาข่มขู่ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายตามมา ยืนยันไม่มีเจตนาจะยิงใส่แต่อย่างใด ซึ่งอาวุธปืนที่ตนหยิบขึ้นมาขู่นั้น ตนไม่ได้ขึ้นลำกล้องหรือเอานิ้วไว้ในโกร่งไกลปืน ทั้งนี้ ปืนตนได้ขออนุญาตและซื้อมาถูกต้องตามกฎหมายเมื่อหลายปีก่อน ที่ผ่านมานานๆ ครั้งจะนำติดไปในรถไว้ป้องกันตัว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในทาง เมือง สาธารณะ หรือชุมชน โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร และข้อหา ตาม ป อาญา ม.309.ว.2 ผิดฐานข่มขืนใจผู้อื่น หากการกระทำนั้นได้กระทำโดยมีอาวุธ ส่วนข้อหาอื่นอยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบเข้าข่ายความผิดใดเพิ่มก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มอีกครั้ง
