ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา หยุดยิง ไม่เพิ่มกำลัง ตั้งคณะผู้สังเกตการชั่วคราว เร่งเก็บศพ เลิกยั่วยุ งดข่าวปลอม นัดถก RBC ภายใน 2 สัปดาห์
วันนี้ (7ส.ค.68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (GBC) ที่ประเทศมาเลเซีย โดยก่อนประชุมได้พบกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนปี 2025 โดยประธานอาเซียนได้หารือกับประเทศในอาเซียนแล้วเห็นตรงกันว่า ปัญหาระหว่างไทย -กัมพูชาเป็นเรื่องทวิภาคี ต้องแก้ปัญหากันเอง ระหว่าง 2 ประเทศ โดยมาเลเซีย จะเป็นเพียงผู้ประสานงาน โดยอาเซียนให้การสนับสนุน ขณะที่ สหรัฐฯ และจีน จะไม่เข้ามาร่วมแต่ยินดีสนับสนุน ในกรณีที่ไทยกับและกัมพูชาเห็นสมควร
สำหรับการประชุม GBC ในครั้งนี้ สหรัฐฯ และจีน ได้ส่ง เอกอัครราชทูตเป็นผู้ร่วมสังเกตการณ์ เช่นเดียวกับ การเจรจาครั้งที่ผ่านมา
ส่วนการประชุม GBC พลเอก ณัฐพล ได้ย้ำในที่ประชุมว่า หลังเจรจาหยุดยิงแล้ว ฝ่ายไทยปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แต่ปรากฏว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดการหยุดยิง จึงต้องตอบโต้เพื่อปกป้องอธิปไตย
แม้สถานการณ์ชายแดนมีความสงบ แต่กัมพูชายังคงเสริมกำลังทหาร และใช้อากาศยานไร้คนขับเข้าไปสอดแนมในพื้นที่ต่าง ๆ ของไทย ถือเป็นการกระทำที่ยั่วยุ และอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน
รวมทั้ง การเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนหรือข่าวเท็จ ซึ่งไม่สร้างสรรค์และไม่เอื้อต่อบรรยากาศ ของการฟื้นฟูความไว้วางใจ
และ จากการประชุมร่วมกันในครั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาในระดับนโยบาย ได้แสดงให้เห็นความจริงใจต่อมาตรการหยุดยิงที่ได้ตกลงกันไว้ การกระทำที่ละเมิดการหยุดยิงที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จึงอาจเป็นการดำเนินการโดยพละการของหน่วยงานในพื้นที่
ดังนั้น ข้อสรุปมติที่ประชุม GBC ร่วมกัน มีดังนี้
1.ทั้งสองฝ่ายตกลงจะยึดมั่นการหยุดยิงอย่างเคร่งครัดครอบคลุมอาวุธทุกประเภท ทั้งสองฝ่ายคงกำลังไว้ที่ตั้งเดิม ณ วันที่หยุดยิง โดยไม่มีการเสริมกำลังเพิ่ม
2.ให้มีคณะผู้สังเกตการชั่วคราว ประกอบด้วย ผู้ช่วยทูตทหารประจำอาเซียนทั้งไทยและกัมพูชา พูดและผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารของมาเลเซียเข้าไปสังเกตการณ์ในพื้นที่สม่ำเสมอ โดยจะไม่มีการข้ามแดนและมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดในระดับ RBC และ GBC ของแต่ละประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีการละเมิดการหยุดยิง
3. ทั้งสองฝ่าย จะไม่ยั่วยุ หรือให้ข่าวที่มีการบิดเบือน เพื่อเสริมสร้าง บรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการพูดคุยเพื่อหาทางออกโดยสันติ
4. ทั้งสองฝ่ายจะปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยระยะเฉพาะหน้า จะเร่งนำร่างผู้เสียชีวิตส่งกลับประเทศอย่างมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี สำหรับเชลยศึกให้ส่งกลับทันทีที่ยุติการใช้กำลังระหว่างกันโดยสมบูรณ์ ตามอนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 3
5. ทั้งสองฝ่ายจะรักษาช่องทางการพูดคุย ไม่ให้สถานการณ์บานปลาย โดยหลังจากนี้จะมีการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ และ ประชุม GBC ภายใน 1 เดือน เพื่อติดตามการปฏิบัติตามสิ่งที่ได้ตกลงกันไว้
พลเอก ณัฐพล กล่าวด้วยว่า ฝ่ายไทยได้หยิบยก 2 ประเด็นสำคัญ แต่กัมพูชายังไม่ให้การตอบรับ โดยให้นำไปหารือในการประชุม GBC ครั้งต่อไป คือ ความร่วมมือในการการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และ การหลอกลวงออนไลน์
นอกจากนี้ ในช่วงที่เปิดให้สื่อมวลชนซักถาม มีคำถามเรื่องการเดินทางกลับเข้าบ้านพักอาศัยของประชาชนในศูนย์พักพิงชายแดนไทย-กัมพูชา จะสามารถดำเนินการได้เมื่อไหร่ พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า สถานการณ์แต่ละจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาแตกต่างกัน ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด จึงสามารถประสานกับหน่วยทหารในพื้นที่ได้โดยตรง เพื่อประเมินสถานการณ์ร่วมกัน
แต่สิ่งที่ยังน่าเป็นห่วงคือ การพบหัวกระสุน หรือระเบิดตกค้างในพื้นที่ ดังนั้น หากพบเห็นให้รีบแจ้งทางการเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
