เช้านี้ที่หมอชิต - นายวิน ทหารกัมพูชาหน่วย BHQ (องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน) ยังยืนกรานปฏิเสธเป็นสายลับ ล่าสุด ตำรวจคุมตัวฝากขัง พร้อมเร่งแกะข้อมูลในโทรศัพท์หาหลักฐาน
วิน ยังปากแข็ง ปัดเป็นสายลับ
นายวิน อายุ 36 ปี ชาวกัมพูชา ถูกตำรวจ สภ.ลำดวน คุมตัวไปฝากขังข้อหา พ.ร.บ.อาวุธปืน และ เข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยระหว่างทางผู้สื่อข่าวเข้ารุมถามว่าเป็นสายลับจริงหรือไม่ ซึ่งเขาให้การปฏิเสธทุกครั้งว่าตนเองไม่ใช่ทั้งสายลับและทหารหน่วย BHQ แต่อย่างใด
ส่วนชุดทหาร ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นของใคร เพราะให้การกลับไปกลับมา อ้างเป็นของพี่เขย เป็นทหารกัมพูชา
เร่งแกะข้อมูลโทรศัพท์ 3 เครื่องหาหลักฐาน
พลตำรวจตรี ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ที่เดินทางมาสอบสวนนายวินเป็นวันที่ 2 เปิดเผยว่า แม้จะให้การปฏิเสธไม่ใช่สายลับ แต่จากหลักฐานหลายอย่างที่ยึดได้ ทั้งปืน 1 กระบอก เครื่องแบบทหารกัมพูชา เสื้อกั๊ก หมวกติดตราสัญลักษณ์หน่วย BHQ หรือกองกำลังพิทักษ์ฮุน เซน และโทรศัพท์มือถือรวม 3 เครื่อง ทำให้ต้องสอบสวนต่อเนื่อง แต่เมื่อวานต้องคุมตัวฝากขังก่อน เพราะครบกำหนดการคุมขังที่โรงพัก โดยหลังจากนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะมีข้อมูลในโทรศัพท์เป็นจำนวนมาก จะต้องแยกออกมาว่าอันไหนเข้าข่ายกระทำผิด
วันเดียวกัน ตำรวจได้เชิญนางสาวจอย อายุ 27 ปี ภรรยาของนายวิน และนายฟ้า น้องชายภรรยา มาสอบปากคำ ก่อนหน้านี้นางสาวจอย ยืนยันไม่ทราบสามีเป็นสายลับ รู้แค่ว่าเคยฝึกทหารเท่านั้น
แฉ วิน ไม่ทำงาน ใช้เงินภรรยา
น้องชายภรรยาบอกว่า อยู่กับพี่สาวที่พัทยามาหลายปี เดิมทีพี่สาวมีสามีเป็นฝรั่ง ดูแลส่งเสียเงินให้ทุกเดือน แต่หลังได้รู้จักนายวินที่บาร์โฮสต์ ตกลงปลงใจอยู่กินกัน พี่สาวได้ย้ายกลับบ้าน นายวินไม่ทำงานอะไรเลย
จับชาวกัมพูชา คล้ายสายลับ บุกค่ายทหาร
ไปที่จังหวัดตราด เกิดความวุ่นวาย พบชายชาวกัมพูชา อายุ 28 ปี ใส่ชุดคล้ายทหาร ท่าทางมีพิรุธ เดินป้วนเปี้ยนอยู่ในวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ตั้งค่ายพักแรมของทหารเรือ
ทหารเรือเผยว่า ขณะนั่งกินข้าวเห็นชายคนดังกล่าวเดินเข้ามายกมือไหว้ และเดินขึ้นไปกุฏิพระอาจารย์ จึงรีบไปสอบถาม แต่กลับพูดวกวนเหมือนแกล้งสติไม่ดี อ้างจะมาอยู่กับพระ เลยนึกเอะใจใช่สายลับหรือไม่ เพราะที่วัดแห่งนี้ ตั้งแต่มาตั้งค่ายก็ไม่ค่อยมีคนทั่วไปเข้ามา จึงประสานตำรวจ สภ.เมืองตราด เข้าตรวจสอบ ไม่พบเอกสารติดตัวใด ๆ จึงนำตัวไปโรงพักเพื่อตรวจสอบ