ตำรวจไซเบอร์ ส่งสำนวนคลิปเสียงสมเด็จฯ ฮุน เซน สั่งล่าคนเห็นต่าง ให้ อสส. พิจารณา

ตำรวจไซเบอร์ ส่งสำนวนคลิปเสียงสมเด็จฯ ฮุน เซน สั่งล่าคนเห็นต่าง ให้ อสส. พิจารณา

View icon 98
วันที่ 8 ส.ค. 2568 | 13.19 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจไซเบอร์ ส่งสำนวนคลิปเสียงสมเด็จฯ ฮุน เซน สั่งล่าคนเห็นต่าง ให้ อสส. พิจารณาเป็นคดีนอราชอาณาจักรหรือไม่ เผย หากผิดจริงเจอหมายจับแน่

วันนี้ (8 ส.ค.68) ที่สำนักอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำสำนวนคดีคลิปเสียงสมเด็จฯ ฮุน เซน สั่งไล่ล่ากลุ่มคนเห็นต่างให้กับอัยการสูงสุดพิจารณา จำนวน 50 แผ่น โดยมี น.ส.ฐิติวดี สินธวณรงค์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับสำนวน

พล.ต.ต. ศิริวัฒน์ กล่าวว่า หลังจาก บก.สอท.1 ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ให้ดำเนินการในเรื่องนี้ ตนได้สั่งการให้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนขึ้น จากการสอบสวนเชื่อว่าเป็นการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร  ซึ่งตามกฎหมายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 ระบุว่า ให้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมายในการพิจารณาสำนวนและสั่งตั้งคณะสอบสวนต่อไป

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ สภ.บ้านฉาง จังหวัดระยองเมื่อ ส.ค.66 ผู้ที่ถูกทำร้ายมีชื่อตรงกับในคลิปเสียงคือ นายพร พันนา ชาวกัมพูชา นักเคลื่อนไหวทางการเมืองฝ่ายตรงข้าม สมเด็จฯ ฮุน เซน ต่อมามีคนร้าย 3 คน ร่วมกันทำร้ายร่างกายนายพร พันนา จนเป็นเหตุให้ได้อันตรายแก่กายและจิตใจ จากข้อมูลนายพร พันนา ได้ลี้ภัยไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา การกระทำของสมเด็จฯ ฮุน เซน เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ในคลิปเสียงมีการสั่งให้บุคคลชื่อนายเคลียง ฮวด ชาวกัมพูชา ทำหน้าที่ดำเนินการในประเทศไทย และมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง มีคนทำร้ายและผู้ถูกทำร้ายเป็นไปตามในคลิปเสียง โดยตัวขอนายเคลียง ฮวด ขณะนี้ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในสำนวนการสอบสวน

เมื่อพิจารณาสำนวนแล้ว หากพบว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นจริงก็จะมีการออกหมายจับ ในกรณีที่ผู้ต้องหาอยู่ต่างประเทศ จะมีการออกหมายแดง ประสานความร่วมมือตำรวจสากลที่มีสมาชิก 196 ประเทศ แต่จะไปถึงขั้นนั้นหรือไม่ ต้องอยู่ในขั้นตอนตามกฎหมายของประเทศไทยก่อน

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนคดีคลิปเสียงการสนทนาระหว่างสมเด็จฯ ฮุน เซน กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีการประชุมหารือด้วยกับทางสำนักงานอัยการสอบสวนไปแล้วจะเสร็จสิ้นภายในเดือน ส.ค.นี้

ด้านน.ส.ฐิติวดี กล่าวว่า ภายหลังจากรับสำนวนจากพนักงานสอบสวน ขั้นตอนต่อไปจะส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณา เพื่อให้อัยการสูงสุดมีคำสั่งส่งสำนวนให้สำนักงานอัยการสอบสวนพิจารณาว่า เป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่ ก่อนมีความเห็นเสนอกลับไปให้อัยการสูงสุดทราบ เพื่อพิจารณาสั่งการตั้งคณะพนักงานสอบสวนให้พิจารณาสำนวนว่าคดีมีมูลพอฟ้องต่อศาลหรือไม่ เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20