สนามข่าว 7 สี - กระทรวงการต่างประเทศ แถลงตอบโต้กัมพูชา ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา และชี้ทุ่นระเบิดสังหารพบล่าสุดในพื้นที่ จังหวัดศรีสะเกษ เพิ่งวางใหม่หลังการประชุม GBC ได้เพียง 2 วัน
สาระสำคัญที่กระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจง ในห้วงเวลาที่เกิดสถานการณ์ชายแดนไทย ตามที่ทหารไทย 11 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางใหม่โดยทหารกัมพูชา ในบริเวณช่องบก ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี และ ช่องโดนเอาว์-กฤษณา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการภายใต้กรอบอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา เพื่อตอบโต้กัมพูชา ดังนี้
เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 จำนวน 3 ฉบับ
หนังสือฉบับแรก ไทยร้องเรียนกัมพูชา ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเส้นทางลาดตระเวนปกติของทหารไทย โดยพบเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางใหม่ และเป็นทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ซึ่งกัมพูชาครอบครอง
หนังสือฉบับที่ 2 ไม่เพียงร้องเรียนกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาฯ บริเวณช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี แต่ยังรุกรานอธิปไตยไทย โดยโจมตีพลเรือนฝั่งไทย
ส่วน หนังสือฉบับที่ 3 กัมพูชาละเมิดพันธกรณี บริเวณพื้นที่ช่องโดนเอาว์-กฤษณา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่เก็บกู้ทุ่นระเบิดเรียบร้อยแล้ว และจากการตรวจสอบหลักฐาน พบทุ่นระเบิดที่วางใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง
โดย กระทรวงการต่างประเทศ ยังชี้ให้เห็นอีกว่า ทุ่นระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการประชุม GBC ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพียง 2 วัน ทั้งที่ในการประชุมฯ เสนอให้ทั้งฝ่ายไทย และฝ่ายกัมพูชา เก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกัน แต่กัมพูชาปฏิเสธ ซึ่งรายละเอียดหนังสือฉบับนี้ ขอให้ประธานอนุสัญญาฯ เวียนหนังสือแจ้งรัฐภาคีอื่น ๆ เพื่อทราบต่อการละเมิดอนุสัญญาฯ ของฝ่ายกัมพูชา
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก มีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติ ขอรับความชัดเจนจากฝ่ายกัมพูชา ต่อการกระทำละเมิดอนุสัญญาออตตาวา และขอให้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญาฯ ของอีกรัฐสมาชิกหนึ่ง ผ่านเลขาธิการสหประชาชาติ โดยกัมพูชามีพันธกรณีที่จะต้องส่งข้อมูลและคำชี้แจงต่อฝ่ายไทยผ่านเลขาธิการสหประชาชาติ
ส่วนอาการทหาร 3 นาย ที่เหยียบระเบิดบาดเจ็บระหว่างลาดตระเวน เพื่อวางลวดหนามป้องกันพื้นที่ช่วงรอยต่อ บ้านโดนเอาว์ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นเหตุให้ จ่าสิบเอก ธานี พาหา อาการหนักสุด ข้อเท้าท่อนล่างขาด เมื่อวาน (10 ส.ค.) พลตรี อัครพนธ์ มูลประดับ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 22 พร้อมคณะแม่บ้านทหารบก เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ โดย จ่าสิบเอก ธานี พบว่าอาการดีขึ้น
ส่วน พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ พลปืนเล็ก ถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บที่แขนซ้าย และแผ่นหลัง ซึ่งยังมีอาการเจ็บที่บาดแผล
เช่นเดียวกับ พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ พลปืนเล็ก ซึ่งแรงอัดระเบิดทำให้ยังมีอาการหูอื้อ ได้ยินเสียงไม่ชัดเจน โดยทหารทั้ง 3 นาย มีครอบครัวคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
